ต้อหิน คืออะไร อาการเป็นอย่างไร เช็กให้ชัวร์ก่อนตาบอด
หน้าแรก
ต้อหิน คืออะไร อาการเป็นอย่างไร เช็กให้ชัวร์ก่อนตาบอด

ต้อหิน คืออะไร อาการเป็นอย่างไร เช็กให้ชัวร์ก่อนตาบอด

ต้อหิน คือ ภัยเงียบที่คุกคามการมองเห็น บทความนี้จะพาไปสำรวจถึงสาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง และวิธีการรักษาโรคต้อหิน เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและเตรียมพร้อมในการปกป้องดวงตาที่ล้ำค่าของคุณจากภัยคุกคามนี้

ต้อหิน คืออะไร

ต้อหิน คือ โรคที่เกิดจากภาวะเสื่อมของเส้นประสาทตา ทำให้เกิดการทำลายลานสายตา ทั้งนี้ความดันลูกตาอาจจะสูงหรืออยู่ในเกณฑ์ปกติก็ได้ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาจะนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร โรคนี้ส่วนใหญ่พบในผู้สูงอายุ 

อาการของต้อหิน

อาการของต้อหิน ระยะเริ่มต้นมักไม่มีอาการ จะตรวจเจอโรคจากการเข้ารับการตรวจคัดกรองเท่านั้น เมื่อโรคดำเนินไประยะหนึ่ง จะเริ่มมีอาการตามัว โดยการมองเห็นจะค่อยๆ แคบลงเรื่อยๆ จนกระทั่งมองไม่เห็นทั้งหมด ส่วนใหญ่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมโรคไม่ให้ลุกลาม และคงการมองเห็นให้ผู้ป่วยให้นานที่สุด

ดังนั้นต้อหินจึงเปรียบเสมือนภัยเงียบที่ทำให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้ไม่ทันการและตาบอดในที่สุด

โรคต้อหิน เกิดจากอะไร

โรคต้อหิน เกิดจากอะไร

โรคต้อหินเกิดได้จากหลายกลไก รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของความดันตา ซึ่งส่งผลให้เกิดการทำลายเส้นประสาทตาและนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น โดยความดันตาที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากความผิดปกติและเสียสมดุลในกระบวนการของการผลิต และระบายน้ำในตา  

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคต้อหิน

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคต้อหิน ได้แก่

  • อายุที่เพิ่มขึ้น อายุเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ โดยทั่วไปผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นต้อหินมากขึ้น และความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น
  • พันธุกรรม หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นต้อหิน โดยเฉพาะญาติสายตรง เช่น พ่อแม่ หรือพี่น้อง โอกาสที่คุณจะเป็นต้อหินก็จะสูงกว่าคนทั่วไป
  • ความดันลูกตาสูง แม้ว่าคนที่มีความดันตาสูงจะไม่ได้เป็นต้อหินทุกคน แต่ความดันตาที่สูงเกินค่าปกติจะเพิ่มโอกาสทำให้เส้นประสาทตาถูกทำลายมากขึ้น
  • การใช้ยาสเตียรอยด์ การใช้ยาหยอดตาหรือยารับประทานที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เป็นเวลานาน อาจทำให้ความดันตาเพิ่มขึ้นและนำไปสู่โรคต้อหินได้
  • การได้รับบาดเจ็บที่ตา อุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนดวงตาอย่างรุนแรง หรือการผ่าตัดดวงตาบางชนิด อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบระบายน้ำของตา ส่งผลให้ความดันตาสูงขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นต้อหิน
  • ค่าสายตาที่ผิดปกติ เช่น สายตาสั้นหรือยาวมากๆ

ต้อหิน มีกี่ประเภท

ต้อหินแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ ต้อหินมุมเปิดและต้อหินมุมปิด

ต้อหินมุมเปิด

ต้อหินมุมเปิด เป็นประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด ในกรณีนี้ มุมระบายน้ำของตาเปิดตามปกติ แต่มีความผิดปกติในโครงสร้างภายในที่ทำให้น้ำในตาไม่สามารถระบายออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความดันตาจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เส้นประสาทตาจะถูกทำลายลงช้า ๆ ผู้ป่วยอาจไม่รู้สึกถึงความผิดปกติจนกว่าจะมีการสูญเสียการมองเห็น เมื่อโรครุนแรงขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการตามัว หรือมองเห็นแคบลง เนื่องจากอาการเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ และไม่มีความเจ็บปวด ทำให้ผู้ป่วยมักไม่ทราบว่าตนเองเป็นต้อหินมุมเปิดจนเมื่อโรคดำเนินไปมากแล้ว

ต้อหินมุมปิด

ต้อหินมุมปิด เกิดจากมุมระบายน้ำของตาถูกปิดกั้นโดยม่านตา ทำให้น้ำในตาไม่สามารถระบายออกได้ ความดันตาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตาอย่างรุนแรง ตาแดง ตามัว เห็นแสงรุ้งรอบดวงไฟหรือแสงแตกกระจาย มีอาการคลื่นไส้ และอาเจียน เนื่องจากอาการเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์ได้เร็วกว่า ต้อหินมุมปิดสามารถรักษาให้หายขาดได้หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที่ในระยะเริ่มต้น แต่หากปล่อยทั้งไว้ อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร

วิธีการรักษาต้อหิน

ปัจจุบันการลดความดันตายังเป็นการรักษาเดียวที่มีประสิทธิภาพในการชะลอการดำเนินโรค สามารถรักษาได้โดยให้ยาหยอด หรือเลเซอร์เพื่อควบคุมความดันตา หากเป็นต้อหินมุมปิด การเลเซอร์จะใช้เป็นการรักษาหลักมากกว่าการหยอดตา และหากควบคุมความดันตาไม่ได้ตามเป้าหมาย ขั้นตอนถัดไปจะเป็นการผ่าตัดเจาะทางระบายหรือใส่ท่อ เพื่อระบายน้ำในลูกตาและลดความดันตา 

วิธีการป้องกันที่เหมาะสมที่สุด

วิธีการป้องกันที่เหมาะสมที่สุด

ควรได้รับการตรวจคัดกรอง หากตรวจพบว่าเป็นโรคต้อหินจะได้รับการรักษาได้ทันท่วงทีในขณะที่การมองเห็นยังไม่สูญเสียมาก สมาคมต้อหินได้แนะนำให้มีการตรวจคัดกรองคนไทยที่มีอายุ 40 ปี แต่ถ้าในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น มีญาติสายตรงเป็นต้อหิน มีการใช้ยาหยอดตากลุ่มสเตียรอยด์ เป็นโรคเบาหวาน ภูมิแพ้ตนเอง มีประวัติม่านตาอักเสบเป็น ๆ หาย ๆ เคยได้รับอุบัติเหตุหรือผ่าตัดที่ตามาก่อน สายตาผิดปกติมาก ๆ เป็นต้น ควรได้รับการตรวจคัดกรองโดยเร็ว

การตระหนักรู้ถึงอาการและปัจจัยเสี่ยงของต้อหินเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการสูญเสียการมองเห็น การรับการตรวจตาอย่างสม่ำเสมอและการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์สามารถลดการสูญเสียการมองเห็นจากต้อหินได้เป็นอย่างดี

 

ข้อมูลโดย

รศ.พญ.ญาณิน สุวรรณ
สาขาวิชาต้อหิน ภาควิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

คลิกชมคลิปรายการ ““โรคต้อหิน” ภัยเงียบที่นำไปสู่การตาบอด: พบหมอรามา ช่วง Meet The Expert “ ได้ที่นี่

 

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 

Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจ็บส้นเท้าทุกครั้งที่ลุกเดินระวัง โรครองช้ำ
เจ็บส้นเท้าเวลาลุกเดินอาจเป็นสัญญาณโรครองช้ำ ภัยเงียบของคนที่ใช้เท้าหนักหรือยืนนาน หากละเลยอาจปวดเรื้อรัง รู้ทันอาการและวิธีป้องกัน
บทความสุขภาพ
25-09-2025

2

กินเห็ดหน้าฝน ระวัง! เห็ดพิษตัวร้าย แค่คำเดียวอาจถึงชีวิต
การกินเห็ดในหน้าฝนเสี่ยงอันตรายจากเห็ดพิษที่แยกยากจากเห็ดกินได้ เพียงคำเดียวอาจทำลายตับ ไต หรือถึงชีวิต ควรรู้จักวิธีเลือกและหลีกเลี่ยง
บทความสุขภาพ
24-09-2025

2

ข้อเท้าตก กระดกไม่ขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องข้อเท้า แต่สะดุด กระทบทุกจังหวะชีวิต
ข้อเท้าตกหรืออาการกระดกข้อเท้าไม่ขึ้น ไม่ใช่เพียงปัญหาข้อเท้า แต่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ หากไม่รักษาอาจสะดุดล้มบ่อย
บทความสุขภาพ
23-09-2025

2

RSV โรคฮิตในเด็กเล็กที่พ่อแม่ต้องรู้
RSV เป็นไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ทำให้มีอาการไอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก และเสี่ยงปอดอักเสบ พ่อแม่ควรรู้วิธีป้องกัน สังเกตอาการ และรีบพบแพทย์
บทความสุขภาพ
22-09-2025

2

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL