ติด HIV อาการ สาเหตุ และการป้องกัน
หน้าแรก
ติด HIV อาการ สาเหตุ และการป้องกัน

ติด HIV อาการ สาเหตุ และการป้องกัน

ในการดูแลสุขภาพของเรา “เอชไอวี (HIV)” เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ควรให้ความสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากการติดเชื้อ HIV สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ที่ติดเชื้อได้ในหลายด้าน อย่างไรก็ตาม การรู้เท่าทันสาเหตุ อาการ  และวิธีป้องกันจะช่วยให้เราสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และสามารถดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจถึง HIV คืออะไร สาเหตุของการติดเชื้อ HIV รวมถึงอาการในแต่ละระยะ วิธีการป้องกัน และใครควรเข้ารับการตรวจ

HIV คืออะไร

HIV (human immunodeficiency virus) คือ ไวรัสที่เข้าทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งมีเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด CD4 เป็นเป้าหมายหลัก เมื่อไวรัสทำลายเซลล์ภูมิคุ้มกันเหล่านี้จนจำนวนลดลง ร่างกายจะไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคและอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่ติดเชื้อ HIV จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเจ็บป่วยรุนแรงหรือเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ป็นโรคเอดส์ (AIDS) ได้

การติดเชื้อ HIV เกิดจากอะไร ?

การติดเชื้อ HIV เกิดจากอะไร

การติด HIV สามารถเกิดขึ้นได้ผ่านหลายช่องทาง โดยส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสเลือด สารคัดหลั่ง หรือของเหลวในร่างกายของผู้ติดเชื้อ ซึ่งช่องทางหลัก ๆ มีดังนี้

  • การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เช่น การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปาก โดยไม่สวมถุงยางอนามัย
  • การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น หรือใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง
  • การส่งต่อจากแม่สู่ลูก แม่ที่ติดเชื้อ HIV สามารถส่งต่อเชื้อไปยังทารกได้ในระหว่างการตั้งครรภ์ การคลอด หรือการให้นมบุตร หากไม่ได้รับการดูแลและใช้ยาป้องกัน

ติด HIV อาการเป็นอย่างไร ?

ติด HIV อาการเป็นอย่างไร

อาการของผู้ ติด HIV จะแตกต่างกันไปในแต่ละคน และสามารถแบ่งได้เป็น 4 ระยะหลัก ๆ ดังนี้

อาการระยะที่ 1

ระยะเฉียบพลัน จะเป็นประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังการติดเชื้อ ผู้ติดเชื้ออาจมีไข้ต่ำ ๆ ปวดเมื่อยตามตัว เจ็บคอ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ หรือมีผื่นขึ้น อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ร้อยละ 50 จะไม่มีอาการ

อาการระยะที่ 2

ระยะไม่มีอาการ ระบบภูมิคุ้มกันสามารถควบคุมไวรัสได้ระดับหนึ่ง ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการป่วยอย่างชัดเจน ระยะนี้อาจกินเวลายาวนานเป็นปีหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพ

อาการระยะที่ 3

ระยะมีอาการ ได้แก่ ท้องเสียเรื้อรัง น้ำหนักลด มีไข้เรื้อรัง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายมากขึ้น

อาการระยะที่ 4

ระยะเอดส์ เมื่อภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างรุนแรง อาจติดเชื้อฉวยโอกาสต่าง ๆ เช่น ปอดอักเสบชนิดรุนแรง เชื้อราขึ้นสมอง หรือมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะนี้หากไม่รับการรักษาอาจทำให้อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว และเสียชีวิตได้

วิธีป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี

  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เป็นวิธีหลักในการลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ
  • หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หากจำเป็นต้องใช้เข็มฉีดยา ควรใช้ของใหม่ที่ผ่านการฆ่าเชื้อเท่านั้น ไม่ควรใช้เข็มซ้ำหรือใช้ร่วมกับผู้อื่น
  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • ยาต้าน HIV ก่อนสัมผัสเชื้อที่เรียกว่า เพร็พ – PreP
  • หากสัมผัสกับเชื้อ HIV ควรพบแพทย์เพื่อรับยาต้าน HIV หลังสัมผัสเชื้อเรียกว่า เป็ป – PEP

ใครควรตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี

  • ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือมีคู่นอนหลายคน
  • ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยาหรืออุปกรณ์ฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
  • ผู้ที่กำลังวางแผนมีบุตร และหญิงตั้งครรภ์ทุกคน
  • ผู้ที่มีอาการคล้ายการติดเชื้อเฉียบพลัน เช่น มีไข้ เจ็บคอ มีผื่น
  • ผู้ที่สงสัยว่าตนเองอาจสัมผัสเชื้อ

HIV เป็นไวรัสที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกาย หากไม่ได้รับการรักษา ผู้ติดเชื้อจะมีอาการมากขึ้นตามระยะที่กล่าวมา ในปัจจุบันมียาต้านไวรัสที่ช่วยชะลอและควบคุมการแพร่เชื้อได้ดีมากขึ้น แต่การป้องกันยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องทุกครั้ง งดการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และการตรวจเช็กสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีความเสี่ยง ควรเข้ารับการตรวจและคำปรึกษาจากแพทย์โดยเร็ว เพื่อดูแลและป้องกันการแพร่เชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ข้อมูลโดย

ศ. พญ.ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล

สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

 

คลิกชมคลิปรายการ “การป้องกันตนเองจากเชื้อHIV “ ได้ที่นี่

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 

Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel 
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

ก้อนที่คอ ใช่ไทรอยด์หรือไม่ เช็กให้ชัวร์
พบก้อนที่คอ อย่าชะล่าใจ อาจเป็นต่อมไทรอยด์โต ซีสต์ หรือก้อนเนื้ออื่น ๆ ตรวจให้ชัวร์เพื่อวางแผนรักษาอย่างถูกต้องและปลอดภัย
บทความสุขภาพ
26-07-2025

2

สะโพกเสื่อม ป้องกันอย่างไร
สะโพกเสื่อมทำให้ปวดสะโพก เดินลำบาก และกระทบการใช้ชีวิต รู้วิธีป้องกันด้วยการปรับพฤติกรรม ออกกำลังกาย และดูแลน้ำหนักให้เหมาะสม
บทความสุขภาพ
21-07-2025

4

รู้ก่อน รับมือได้…กับอาการปวดข้อศอก
อาการปวดข้อศอกอาจเกิดจากการใช้งานซ้ำซาก หรือโรคข้ออักเสบ หากปล่อยไว้เรื้อรังอาจกระทบการใช้งานแขน รู้ทันสาเหตุและแนวทางดูแลอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
14-07-2025

8

ปวดเข่าและข้อเข่าเสื่อม
ปวดเข่าและข้อเข่าเสื่อมเป็นปัญหาพบบ่อยในผู้สูงอายุ ส่งผลต่อการเดินและใช้ชีวิตประจำวัน รู้วิธีดูแล ป้องกัน และบรรเทาอาการอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
07-07-2025

17

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL