การฉีดยาเป็นวิธีหนึ่งในการนำยาเข้าสู่ร่างกาย โดยวิธีที่ใช้บ่อยคือ IV (Intravenous Injection) และ IM (Intramuscular Injection) ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้
IV (Intravenous Injection) คืออะไร
- การฉีดยาเข้าสู่หลอดเลือดดำโดยตรง
- ยาจะเข้าสู่กระแสเลือดทันที
- ออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับกรณีที่ต้องการผลทันที เช่น ผู้ป่วยฉุกเฉิน ช็อก หรือหมดสติ
- ตำแหน่งที่นิยมฉีด : ปลายแขน หรือปลายขา
IM (Intramuscular Injection) คืออะไร
- การฉีดยาเข้าไปในกล้ามเนื้อ
- ยาจะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ออกฤทธิ์ช้ากว่า IV แต่ฤทธิ์ของยาจะอยู่ได้นานกว่า
- จุดที่นิยมฉีด : ต้นแขน หรือสะโพก
- เหมาะสำหรับการควบคุมการปล่อยยาให้ออกฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง
ทำไมต้องฉีดยา แทนการกินยา ?
การฉีดยาจะถูกเลือกในกรณีที่
- คนไข้ไม่สามารถกินยาได้ เช่น หมดสติ หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง
- ยาบางชนิดไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ดีเมื่อกินผ่านทางปาก
ข้อดีและข้อเสียของการฉีดยา
- ข้อดี ของยาฉีด (โดยเฉพาะ IV) ออกฤทธิ์รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงกว่าการกินยา
- ข้อเสีย การฉีดยามีความซับซ้อนมากกว่าการกินยา มีความเสี่ยง เช่น การติดเชื้อ หรือการบาดเจ็บที่เส้นเลือดหรือกล้ามเนื้อ
แล้วควรกินหรือฉีดยาดี ?
การตัดสินใจว่าจะใช้วิธีไหน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมอ โดยพิจารณาจากสภาพร่างกายของคนไข้และชนิดของโรค
- กินยา : สะดวก ปลอดภัย คนไข้สามารถดูแลตัวเองได้ง่าย
- ฉีดยา : ให้ผลเร็ว เหมาะสำหรับสถานการณ์เร่งด่วน แต่มีความซับซ้อนและเสี่ยงมากกว่า
ไม่ว่าจะเลือกการฉีดยาแบบ IV หรือ IM คุณหมอจะเป็นผู้ตัดสินใจตามความเหมาะสมของแต่ละเคส เพื่อให้การรักษาได้ผลดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ป่วย
ข้อมูลโดย
ผศ. ดร. นพ.ชายนันท์ วิจิตรตระการรุ่ง
สาขาวิชาเวชศาสตร์การกีฬา ภาควิชาออร์โธปิดิกส์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
คลิกชมคลิป “EP.11 IV IM #ภาษาหมอรู้ไว้จะได้เคลียร์” ได้ที่นี่
ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่
Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ








