คราบหินปูน อันตรายกว่าที่คิด
หน้าแรก
“คราบหินปูน” อันตรายกว่าที่คิด

“คราบหินปูน” อันตรายกว่าที่คิด

อีกหนึ่งปัญหาในช่องปากก็คือ คราบหินปูน ที่เกาะตามผิวฟัน หลายคนอาจมองข้ามการรักษาเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย  ขณะที่ความจริงแล้วปัญหาดังกล่าวอาจนำมาสู่ปัญหาช่องปากอื่นๆ ได้อย่างคาดไม่ถึง

คราบหินปูน ถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “หินน้ำลาย” เกิดจาก

คราบจุลินทรีย์หรือขี้ฟันที่สะสมและจับกับเชื้อโรคจนกระทั่งตกตะกอนกลายเป็นของแข็งเกาะอยู่บนผิวฟัน ซอกเหงือก ซอกฟัน และขอบฟัน โดยปกติคราบจุลินทรีย์เริ่มต้นที่เกาะอยู่บนผิวฟันจะมีลักษณะนิ่มและสามารถแปรงออกได้ แต่เมื่อใดที่มีแร่ธาตุจากน้ำลายมาผสมด้วยจะกลายเป็นคราบหินปูนที่มีลักษณะเป็นของแข็งไม่สามารถแปรงได้เอง ต้องให้ทันตแพทย์ทำการขูดหินปูนออกไปเท่านั้น

ผลข้างเคียงของปัญหาคราบหินปูน

จะเกิดขึ้นเมื่อจุลินทรีย์ปล่อยสารที่เป็นกรดออกมาทำให้เกิดเหงือกอักเสบ และเมื่อปล่อยออกมานานๆ กระดูกที่รองรับรากฟันจะค่อยๆ ละลาย ทำให้ฟันโยกไม่แข็งแรง โดยปัญหาที่เกิดจากคราบหินปูน ได้แก่ เลือดออกขณะแปรงฟัน ฟันเหลือง มีกลิ่นปาก เหงือกร่น โรคปริทันต์  ฟันผุ ฟันโยกฟันห่าง และฟันผุ

ดังนั้นปัญหาคราบหินปูนจึงเป็นปัญหาช่องปากที่ควรได้รับการดูแลจากทันตแพทย์ตามความเหมาะสม สำหรับช่วงอายุที่สามารถเข้ารับการขูดหินปูนได้นั้น ปกติแล้วไม่ได้มีการกำหนดตายตัวอาศัยการตรวจสุขภาพถ้าหากถึงเวลาที่ควรได้รับการขูดหินปูนแพทย์จะแนะนำ ส่วนความถี่ที่เหมาะสมในการขูดหินปูน สำหรับคนทั่วไปที่มีอาการเหงือกอักเสบเพียงเล็กน้อยควรขูดหินปูนทุก 6 เดือน แต่ถ้าหากมีอาการของร่องลึกปริทันต์ด้วยควรได้รับการขูดหินปูนทุก 3-4 เดือน

วิธีการขูดหินปูน

แพทย์จะใช้เครื่องขูดหินปูนทำการกระเทาะเอาตัวหินปูนออกจากผิวฟัน ซึ่งวิธีการนี้จะไม่ได้ขูดที่ผิวฟันโดยตรงและไม่มีการยุ่งกับเนื้อฟันแต่อย่างใด ขณะที่หลายคนยังคงเข้าใจผิดอยู่ว่าการขูดหินปูนจะต้องขูดกับเนื้อฟันและทำให้ฟันห่าง จึงไม่อยากขูดหินปูน ซึ่งความเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิง ส่วนอาการเสียวฟันขณะขูดหินปูนอาจเกิดเล็กน้อย เว้นแต่บางกรณีที่ผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกเสียวมาก แพทย์ก็จะใส่ยาชาให้

หลังขูดหินปูนหลายๆ คนจะสังเกตเห็นว่าฟันจะห่างออกจากกัน ซึ่งตรงนี้เองที่หลายคนยังเข้าใจผิดอยู่ว่าเป็นเพราะการขูดหินปูนของแพทย์ ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะฟันที่ห่างนั้นเกิดจากหินปูนที่สะสมอยู่ตามซอกเหงือก ทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกและเกิดการร่นของเหงือกตามมา เมื่อขูดหินปูนออกมาจึงเห็นว่าฟันแต่ละซี่ได้ห่างออกจากกันซึ่งเป็นผลจากคราบหินปูนเอง จึงไม่ควรปล่อยทิ้งไว้

ส่วนการดูแลรักษาฟันจากคราบหินปูน ได้แก่

การแปรงฟันให้ถูกวิธีและสะอาด แปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวันเวลาเช้าและเย็น และถ้าสามารถแปรงฟันกลางวันได้ยิ่งดี หรือไม่ก็แนะนำให้บ้วนน้ำ 2-3 ครั้ง หลังมื้อกลางวัน และหลีกเลี่ยงของหวานระหว่างมื้อ รวมทั้งพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

 

ข้อมูลจาก
ทพญ.นุชนาถ โอปิลันธน์
งานทันตกรรม
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “”คราบหินปูน”อันตรายที่หลายคนมองข้าม! : Rama Square ช่วง ปากสวย-โสตใส” ได้ที่นี่

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

กินเห็ดหน้าฝน ระวัง! เห็ดพิษตัวร้าย แค่คำเดียวอาจถึงชีวิต
การกินเห็ดในหน้าฝนเสี่ยงอันตรายจากเห็ดพิษที่แยกยากจากเห็ดกินได้ เพียงคำเดียวอาจทำลายตับ ไต หรือถึงชีวิต ควรรู้จักวิธีเลือกและหลีกเลี่ยง
บทความสุขภาพ
24-09-2025

0

ข้อเท้าตก กระดกไม่ขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องข้อเท้า แต่สะดุด กระทบทุกจังหวะชีวิต
ข้อเท้าตกหรืออาการกระดกข้อเท้าไม่ขึ้น ไม่ใช่เพียงปัญหาข้อเท้า แต่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ หากไม่รักษาอาจสะดุดล้มบ่อย
บทความสุขภาพ
23-09-2025

0

RSV โรคฮิตในเด็กเล็กที่พ่อแม่ต้องรู้
RSV เป็นไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ทำให้มีอาการไอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก และเสี่ยงปอดอักเสบ พ่อแม่ควรรู้วิธีป้องกัน สังเกตอาการ และรีบพบแพทย์
บทความสุขภาพ
22-09-2025

0

โรคทางเดินอาหาร จับสัญญาณปวดท้องที่ควรระวัง
โรคทางเดินอาหารมีสัญญาณเตือนที่มักเริ่มจากอาการปวดท้อง หากละเลยอาจนำไปสู่ภาวะรุนแรง เช่น แผลในกระเพาะ ลำไส้อักเสบ หรือมะเร็งลำไส้
บทความสุขภาพ
20-09-2025

2

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL