เชื่อว่าทุกคนเคยมีอาการ ขี้ลืม กันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นลืมกุญแจบ้าน ลืมนัดหมาย หรือว่าลืมวางโทรศัพท์ไว้ที่ไหน อาการเหล่านี้อาจเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน แต่หากเริ่มมีอาการหลงลืมบ่อยขึ้น จดจำเรื่องราวสำคัญไม่ได้ หรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะสมองเสื่อม ซึ่งเป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อความจำ ความคิด และการใช้ชีวิตประจำวัน
สมองเสื่อมไม่ได้เกิดขึ้นทันทีแต่ค่อย ๆ พัฒนาไปตามเวลา หากสามารถสังเกตอาการได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้ได้รับการรักษาและชะลอการเสื่อมของสมองได้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับภาวะสมองเสื่อม อาการที่ควรระวัง สาเหตุ และแนวทางป้องกันเพื่อดูแลสุขภาพสมองให้แข็งแรงได้นานที่สุด
ภาวะสมองเสื่อม คืออะไร ?
ภาวะสมองเสื่อม (dementia) เป็นภาวะที่สมองทำงานลดลง ส่งผลกระทบต่อความจำ ความคิด เหตุผล และการใช้ชีวิตประจำวัน โดยมักพบในผู้สูงอายุ แต่สามารถเกิดขึ้นในวัยกลางคนได้เช่นกัน
สัญญาณของโรคสมองเสื่อม
- สูญเสียความทรงจำระยะสั้น
- สับสนเวลา สถานที่
- อารมณ์เปลี่ยนแปลงเร็ว
- เซื่องซึม นิ่งเฉย
สาเหตุของการเป็นโรคสมองเสื่อม
ภาวะสมองเสื่อมเกิดจากความผิดปกติในสมองที่ทำให้เซลล์สมองถูกทำลายหรือเสื่อมลง ซึ่งอาจเกิดจาก:
- โรคอัลไซเมอร์ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อม
- โรคหลอดเลือดสมอง ส่งผลให้สมองขาดออกซิเจนและสารอาหาร
- การบาดเจ็บที่สมอง เช่น อุบัติเหตุหรือการกระทบกระเทือนรุนแรง
- ภาวะขาดสารอาหาร การขาดวิตามิน B1, B12 และโฟเลต
- โรคอื่น ๆ เช่น พาร์กินสัน หรือฮันติงตัน
- ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ปริมาณมาก เป็นระยะเวลานาน
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้สมองเสื่อม
- อายุที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงของสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
- พันธุกรรม หากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคอัลไซเมอร์ก่อนอายุ 65 ปี อาจมีโอกาสสูงขึ้น
- โรคหัวใจและเบาหวาน ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
- การสูบบุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาจทำลายเซลล์สมองและเร่งการเสื่อมของสมอง
- การขาดการกระตุ้นสมอง ไม่ค่อยได้ฝึกคิดหรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
อาการสมองเสื่อมสังเกตได้อย่างไร ?
- ขี้ลืม บ่อยและจำเรื่องสำคัญไม่ได้ เช่น ลืมชื่อคนใกล้ตัว
- พูดซ้ำ ๆ และถามคำถามเดิมหลายครั้ง
- หลงลืมเส้นทาง แม้เป็นเส้นทางที่คุ้นเคย
- มีปัญหาด้านการใช้ภาษา เช่น ลืมคำศัพท์ง่าย ๆ
- มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น หงุดหงิด ซึมเศร้า หรือหวาดระแวง
ภาวะสมองเสื่อมมีกี่ระยะ ?
ภาวะสมองเสื่อมแบ่งออกเป็น 3 ระยะหลัก ได้แก่:
- ระยะแรก มีอาการหลงลืมเล็กน้อย เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันที่ต้องใช้ความสามารถ เช่น การจัดยา การทำงานบ้าน การทำธุรกรรมทางการเงิน การเดินทาง
- ระยะกลาง มีปัญหาหลงลืมมากขึ้น เริ่มมีปัญหาในการทำกิจวัตรส่วนตัว เช่น เลือกเสื้อผ้าใส่ไม่ถูก ใส่เสื้อผ้าซ้ำๆ
- ระยะสุดท้าย ไม่สามารถจดจำสิ่งรอบตัวได้ เริ่มมีปัญหาด้านการสื่อสาร ลืมคนใกล้ชิด สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวและการดูแลตนเอง
แนวทางการป้องกันและการรักษาภาวะสมองเสื่อม
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของหลอดเลือดและหัวใจ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย เน้นอาหารที่มีโอเมก้า 3 หลีกเลี่ยงอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล และไขมันสูง
- ฝึกสมองด้วยกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นความคิด เช่น อ่านหนังสือ เล่นหมากรุก หรือเรียนรู้สิ่งใหม่
- ควบคุมโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- งดยาที่มีฤทธิ์กดประสาท เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้เวียนศีรษะ ยานอนหลับ ยาคลายกล้ามเนื้อ
- ระวังการเกิดอุบัติเหตุบริเวณศีรษะ
ภาวะสมองเสื่อมเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม หากพบว่ามีอาการลืมผิดปกติ ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันและชะลอการเสื่อมของสมอง การดูแลสุขภาพสมองด้วยการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และฝึกสมองอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมได้
ข้อมูลโดย
อ. นพ.จิโรจ พละเลิศ
สาขาวิชาเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่
Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ











