ไวรัส HPV ต้นตอโรคร้ายในช่องคลอด
หน้าแรก
ไวรัส HPV ต้นตอโรคร้ายในช่องคลอด ภัยเงียบที่ผู้ญิงไม่ควรมองข้าม

ไวรัส HPV ต้นตอโรคร้ายในช่องคลอด ภัยเงียบที่ผู้ญิงไม่ควรมองข้าม

ในโลกปัจจุบัน ผู้หญิงหลายคนอาจไม่ตระหนักถึงภัยเงียบที่แฝงตัวอยู่ในร่างกาย นั่นคือ ไวรัส HPV (human papillomavirus) ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของโรคร้ายแรงในช่องคลอด โดยเฉพาะ มะเร็งปากมดลูก ที่คร่าชีวิตผู้หญิงหลายล้านคนทั่วโลกในแต่ละปี ไวรัสชนิดนี้ไม่ได้เป็นที่รู้จักเฉพาะในกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยง แต่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน การขาดความรู้และการป้องกันที่เหมาะสมทำให้ไวรัส HPV กลายเป็นศัตรูเงียบที่สร้างความเสียหายต่อสุขภาพโดยไม่ทันรู้ตัว

ไวรัส HPV มีสายพันธุ์มากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยบางสายพันธุ์สามารถก่อให้เกิดหูดหงอนไก่ ในขณะที่บางสายพันธุ์เป็นต้นเหตุของมะเร็งต่าง ๆ เช่น มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งช่องคลอด ความน่ากลัวของไวรัสนี้คือการที่สามารถแพร่เชื้อได้ง่ายโดยไม่แสดงอาการในช่วงแรก การรู้เท่าทันและป้องกันตัวเองอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนควรให้ความสนใจ

ในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับไวรัส HPV อย่างละเอียด ตั้งแต่ปัจจัยเสี่ยง อาการ สาเหตุ ไปจนถึงวิธีป้องกันและรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถปกป้องตัวเองและคนที่คุณรักจากภัยเงียบนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เชื้อไวรัส HPV คืออะไร

เชื้อไวรัส HPV คืออะไร

เชื้อไวรัส HPV (human papillomavirus) เป็นไวรัสที่มีหลากหลายสายพันธุ์ บางสายพันธุ์อาจทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่ ในขณะที่บางสายพันธุ์มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็ง เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด และมะเร็งทวารหนัก การติดเชื้อ HPV ส่วนใหญ่มักเกิดจากการสัมผัสทางผิวหนังหรือการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน

สิ่งสำคัญคือ HPV เป็นไวรัสที่อาจไม่มีอาการชัดเจนในช่วงแรก ทำให้หลายคนไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ ดังนั้นการตรวจสุขภาพเป็นประจำจึงมีความสำคัญในการป้องกันโรคที่เกิดจากไวรัสนี้

ปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสในช่องคลอด คืออะไร

การติดเชื้อไวรัส HPV ในช่องคลอดสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยที่เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ โดยมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญมีดังนี้

  1. การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน การไม่ใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์เป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก เนื่องจากไวรัส HPV สามารถแพร่เชื้อผ่านการสัมผัสทางผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ 
  2. การมีคู่นอนหลายคน การมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคนเพิ่มโอกาสการสัมผัสกับไวรัส HPV เพราะแต่ละคนอาจเป็นพาหะของเชื้อโดยไม่แสดงอาการ
  3. ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วย HIV หรือผู้ที่รับยากดภูมิคุ้มกัน มีโอกาสติดเชื้อไวรัสได้ง่ายขึ้น เนื่องจากร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อได้อย่างเต็มที่

อาการเมื่อติดเชื้อ HPV เป็นอย่างไร

ไวรัส HPV ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการในระยะแรก ทำให้ผู้ติดเชื้อไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาจมีอาการดังนี้

  • มีหูดหงอนไก่หรือรอยนูนผิดปกติบริเวณอวัยวะเพศ
  • อาการคันหรือแสบในช่องคลอด
  • มีเลือดออกผิดปกติหลังการมีเพศสัมพันธ์

หากพบอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อทำการตรวจและวินิจฉัยอย่างละเอียด

ติดไวรัสในช่องคลอดทำให้เป็นหูดหงอนไก่ได้จริงหรือ ?

คำตอบคือ จริง การติดเชื้อไวรัส HPV บางสายพันธุ์สามารถทำให้เกิด หูดหงอนไก่ ได้ โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น สายพันธุ์ 6 และ 11 ซึ่งพบได้บ่อยในการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะเพศ

หูดหงอนไก่คืออะไร ?

หูดหงอนไก่เป็นลักษณะของรอยนูนที่เกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือรอบช่องคลอด มักมีลักษณะดังนี้

  • มีขนาดเล็กและนุ่ม
  • อาจเป็นตุ่มเดี่ยวหรือตุ่มกลุ่มลักษณะคล้ายดอกกะหล่ำ
  • อาจมีสีเดียวกับผิวหนังหรือสีชมพู

การแพร่กระจายของหูดหงอนไก่

  • การสัมผัสทางผิวหนังกับผู้ที่ติดเชื้อ HPV
  • การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน รวมถึงการสัมผัสทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปาก

ผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

แม้ว่าหูดหงอนไก่จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตและไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง แต่สามารถส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ เช่น

  • ทำให้เกิดความไม่สบายใจและความอับอาย
  • อาจสร้างความเจ็บปวดหรืออาการระคายเคือง
  • เพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น

การป้องกันการเกิดหูดหงอนไก่

  • การฉีดวัคซีน HPV ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดหูดหงอนไก่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์
  • การตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อค้นหาและรักษาอาการผิดปกติในระยะแรก

การป้องกันการติดเชื้อ HPV

การป้องกันการติดเชื้อ HPV

ไวรัส HPV เป็นหนึ่งในเชื้อไวรัสที่สามารถป้องกันได้หากมีการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมและตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล ต่อไปนี้คือวิธีป้องกันการติดเชื้อ HPV อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ฉีดวัคซีน HPV วัคซีน HPV ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็ง เช่น สายพันธุ์ 16 และ 18 รวมถึงสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ เช่น สายพันธุ์ 6 และ 11 ควรฉีดวัคซีนในช่วงอายุ 9-26 ปี หรือก่อนเริ่มมีเพศสัมพันธ์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  2. ลดพฤติกรรมเสี่ยง การมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนคนเดียวที่ตรวจสุขภาพเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ หลีกเลี่ยงการสัมผัสอวัยวะเพศหรือบริเวณที่อาจมีเชื้อไวรัส
  3. รักษาสุขภาพร่างกาย การดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ และนอนหลับเพียงพอ จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในการต้านทานเชื้อไวรัส
  4. ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ผู้หญิงควรเข้ารับการตรวจคัดกรองทุก 3 ปี หรือบ่อยครั้งขึ้นตามคำแนะนำของแพทย์ การตรวจหาเชื้อ HPV นี้ช่วยระบุสายพันธุ์ของไวรัส HPV และประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
  5. หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของที่สัมผัสกับผิวหนังหรือเยื่อบุ เช่น ผ้าเช็ดตัว หรือชุดชั้นในร่วมกับผู้อื่น

ไวรัส HPV เป็นภัยเงียบที่ผู้หญิงทุกคนควรตระหนักและให้ความสำคัญ การป้องกันด้วยการฉีดวัคซีน การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงสามารถลดโอกาสการติดเชื้อได้อย่างมาก ดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้เพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต

 

ข้อมูลโดย

รศ. พญ.มัธชุพร สุขประเสริฐ
สาขาวิชาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

คลิกชมคลิปรายการ “EP.01 ไวรัสในช่องคลอด ภัยเงียบที่มองไม่เห็น“ ได้ที่นี่

 

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 

Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจ็บส้นเท้าทุกครั้งที่ลุกเดินระวัง โรครองช้ำ
เจ็บส้นเท้าเวลาลุกเดินอาจเป็นสัญญาณโรครองช้ำ ภัยเงียบของคนที่ใช้เท้าหนักหรือยืนนาน หากละเลยอาจปวดเรื้อรัง รู้ทันอาการและวิธีป้องกัน
บทความสุขภาพ
25-09-2025

1

กินเห็ดหน้าฝน ระวัง! เห็ดพิษตัวร้าย แค่คำเดียวอาจถึงชีวิต
การกินเห็ดในหน้าฝนเสี่ยงอันตรายจากเห็ดพิษที่แยกยากจากเห็ดกินได้ เพียงคำเดียวอาจทำลายตับ ไต หรือถึงชีวิต ควรรู้จักวิธีเลือกและหลีกเลี่ยง
บทความสุขภาพ
24-09-2025

2

ข้อเท้าตก กระดกไม่ขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องข้อเท้า แต่สะดุด กระทบทุกจังหวะชีวิต
ข้อเท้าตกหรืออาการกระดกข้อเท้าไม่ขึ้น ไม่ใช่เพียงปัญหาข้อเท้า แต่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ หากไม่รักษาอาจสะดุดล้มบ่อย
บทความสุขภาพ
23-09-2025

2

RSV โรคฮิตในเด็กเล็กที่พ่อแม่ต้องรู้
RSV เป็นไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ทำให้มีอาการไอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก และเสี่ยงปอดอักเสบ พ่อแม่ควรรู้วิธีป้องกัน สังเกตอาการ และรีบพบแพทย์
บทความสุขภาพ
22-09-2025

2

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL