ผู้สูงอายุเป็นวัยที่มากไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ จากความเสื่อมสภาพของร่างกายรวมถึงภาวะการ “ไม่มีฟัน” ซึ่งเกิดจากการสูญเสียฟันไปตามอายุขัย ซึ่งทำให้เกิดภาวะ “ขาดสารอาหาร” ตามมา
สาเหตุการสูญเสียฟันในผู้สูงอายุ
ในความเป็นจริงแล้วฟันเป็นอวัยวะที่สามารถอยู่กับมนุษย์ได้ตลอดชีวิตหากมีการดูแลรักษาที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย แต่พบว่าบางรายดูแลฟันได้ไม่ดีพอ จึงเกิดภาวะสูญเสียฟันในวัยสูงอายุตามมา ปัญหาที่ทำให้เกิดการสูญเสียฟัน ได้แก่
- ฟันผุมากจากการทำความสะอาดได้ไม่ดีและปล่อยให้ลุกลามจนกระทั่งเกิดการผุกร่อนของฟัน จนในที่สุดตัวฟันอาจจะเเตกหักจนหลงเหลือแต่รากฟันและต้องถูกถอนออกในที่สุด
- การดูแลรักษาสุขภาพอย่างไม่ถูกวิธีก่อให้เกิดหินปูนตามตัวฟันส่งผลให้เหงือกอักเสบ และหากปล่อยทิ้งไว้จะลุกลามและทวีความรุนเเรงจนก่อให้เกิดการอักเสบต่อกระดูกเบ้าฟัน การอักเสบนี้จะส่งผลให้กระดูกล้อมรอบฟันละลายลงไปเรื่อยๆหากไม่มีการรักษาอย่างไม่ถูกวิธีจนกระทั่งสูญเสียฟันไป
- เป็นผลมาจากการดูแลสุขภาพในช่องปากไม่ดีพอในวัยที่อายุยังน้อย มีการสูญเสียฟันต้องเเต่อายุน้อย
- ไม่พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสมำเสมอ (ควรพบทันตแพทย์ทุก6-12เดือน)
- ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องว่าควรมาพบทันตแพทย์เมื่อมีอาการเท่านั้น
ผลกระทบจากการสูญเสียฟัน
- เคี้ยวอาหารบางประเภทไม่ได้ โดยเฉพาะอาหารที่มีลักษณะเหนียว แข็ง เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ เป็นต้น
- เคี้ยวอาหารได้ยากลำบาก บางรายใช้ฟันที่เหลืออยู่เคี้ยวอาหารให้อ่อนลงและใช้เหงือกบดอาหารต่อ
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารบางชนิด ทำให้ได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอกับความต้องการ เกิดภาวะขาดสารอาหารในที่สุด
การดูแลสุขภาพฟัน
การรักษาสุขภาพช่องปากเหมือนกับการดูเเลสุขภาพร่างกาย ดังนั้นเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ควรจะหมั่นพบทันตแพทย์ทุก 6-12 เดือนเพื่อให้ช่องปากอยู่ในสุขภาพที่ดี มิใช่เพียงแต่ไปพบทันตแพทย์เมื่อมีปัญหา เเต่เป็นการดูเเลและป้องกันเพื่อรักษาสุขภาพช่องปากของเราให้แข็งเเรงสมบูรณ์เช่นเดียวกับร่างกายของเรา และหากตนเองรู้สึกว่ามีความผิดปกติใดๆในช่องปากควรไปพบทันตแพทย์ทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เนื่องจากปัญหาเล็กที่แก้ไขง่ายจะลุกลามเป็นปัญหาใหญ่และรักษายากยิ่งขึ้น
เช่นหากมีฟันที่ถูกถอนไปไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆทันตแพทย์จะให้คำเเนะนำว่าจำเป็นต้องมีการรักษาเพิ่มเติมเช่น การรักษาโดยใช้วิธีการจัดฟันเพื่อปิดช่องว่างจากการสูญเสียฟันหากเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาเช่น ปัญหาฟันล้มหรือฟันคู่สบงอกยื่นยาวลงมาจนกระทั่งกระเเทกเหงือก หรืออาจใช้ฟันปลอมทดแทนช่องว่างจากการถอนฟัน ก็จะช่วยให้สามารถกลับมาเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ และป้องกันภาวะการขาดสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สาเหตุอื่นที่ทำให้ผู้สูงอายุน้ำหนักตัวลดลง
- โรคบางอย่างที่เป็นสาเหตุทำให้น้ำหนักลดลง เช่น เบาหวาน ไทรอยด์เป็นพิษ มะเร็งบางอย่าง เป็นต้น
- ปัญหาทางด้านจิตใจ ผู้สูงอายุไม่อยากทานอาหารอาจเพราะไม่ได้ทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัว
- การรับรสที่เปลี่ยนไปของผู้สูงอายุบางราย เช่นในผู้สูงอายุที่ขาดวิตามิน ทำให้การรับรสผิดปกติ และเกิดความไม่อยากอาหาร
การดูแลผู้สูงอายุเมื่อน้ำหนักตัวลดลงมาก
- สังเกตเบื้องต้นว่าผู้สูงอายุมีปัญหาด้านใด จึงไม่ยอมทานอาหารหรือทานได้น้อยลง
- ควรพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ เพราะอาจมีโรคอื่นแฝงอยู่เป็นเหตุให้น้ำหนักลดลงได้ เช่น เบาหวาน ไทรอยด์เป็นพิษ มะเร็งบางอย่าง เป็นต้น หรืออาจเป็นโรคทางจิตใจ เช่น โรคซึมเศร้า เป็นต้น
- นอกจากการวินิจฉัยโรคที่ทำให้น้ำหนักลดลง แพทย์จะสามารถวินิจฉัยได้ด้วยว่าผู้สูงอายุขาดสารอาหารชนิดใดบ้าง และวางแผนในเรื่องของการให้ผู้สูงอายุทานอาหารเสริมที่เหมาะสม
- ผู้สูงอายุบางรายมีปัญหาเรื่องการทำงานของไตบกพร่อง การให้กินโปรตีนเสริมคือความเสี่ยงที่ทำให้ไตทำงานหนัก ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนรับประทานอาหารเสริม
- หากผู้สูงอายุมีปัญหาสุขภาพฟันควรรีบพาไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษา
- ปรับรสชาติอาหารให้ถูกปากผู้สูงอายุ
- ปรับอาหารให้มีเนื้อสัมผัสที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้สูงอายุ เพื่อให้เคี้ยวได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ผู้สูงอายุอยากกินอาหารได้มากขึ้น เช่น เปลี่ยนจากเนื้อหมูชิ้นเป็นหมูบด หรือตุ๋นเนื้อหมูให้นานกว่าปกติเพื่อให้มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น เป็นต้น
- การร่วมกันกินอาหารกับคนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญของผู้สูงอายุ ช่วยให้ผู้สูงอายุอยากกินอาหารได้มากขึ้น
- ควรให้ผู้สูงอายุกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ หากผู้สูงอายุไม่สามารถกินได้ ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวเรื่องการให้ผู้สูงอายุกินอาหารเสริม
ข้อมูลจาก
อ. พญ.ประพิมพ์พร ฉัตรานุกูลชัย
สาขาวิชาโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์ ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล