ใช้เพร็พ (PrEP) อย่างถูกวิธี ป้องกันเอชไอวีได้
หน้าแรก
ใช้เพร็พ (PrEP) อย่างถูกวิธี ป้องกันเอชไอวีได้

ใช้เพร็พ (PrEP) อย่างถูกวิธี ป้องกันเอชไอวีได้

เพร็พ (PrEP) เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง หากใช้อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ สามารถลดโอกาสการติดเชื้อได้ ทำให้เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญในการดูแลสุขภาพและลดการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี

เพร็พ เป็นยาที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อสามารถป้องกันตนเองจากการติดเชื้อเอชไอวีได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีคู่นอนติดเชื้อ หรือมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย หรือการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย แม้ว่าเพร็พจะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องใช้อย่างถูกวิธีและต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลสูงสุด

บทความนี้จะพาไปรู้จักกับเพร็พให้มากขึ้น ทั้งหลักการทำงาน วิธีใช้ที่ถูกต้อง และข้อควรระวัง เพื่อให้คุณสามารถป้องกันตัวเองจากเอชไอวี ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

เพร็พ (PrEP) คืออะไร ?

เพร็พ (PrEP) คืออะไร ?

เพร็พ (PrEP) หรือ Pre-Exposure Prophylaxis คือ ยาที่ใช้สำหรับป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่มีคู่นอนที่ติดเชื้อเอชไอวี หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ โดยหากใช้ยาอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ สามารถลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีได้

วิธีใช้เพร็พให้ได้ผลสูงสุด

วิธีใช้เพร็พให้ได้ผลสูงสุด

การใช้เพร็พให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต้องใช้ “อย่างสม่ำเสมอ” และ “ตามคำแนะนำของแพทย์” โดยทั่วไปมี 2 วิธีการใช้ที่ได้รับการยอมรับคือ

  1. แบบรายวัน (Daily PrEP) กินยา 1 เม็ดทุกวัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อเนื่อง
  2. แบบเฉพาะกิจ (On-Demand PrEP) กินก่อนมีเพศสัมพันธ์ อย่างน้อย 2 ชั่วโมง 2 เม็ด และตามด้วยอีก 1 เม็ดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายใน 24 และ 48 ชั่วโมง เหมาะกับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อย สามารถใช้ได้เฉพาะเพศชาย ไม่ต้องกินทุกวันเหมือน Daily PrEP

นอกจากนี้ยังมี PrEP แบบฉีด หรือ CAB-LA PrEP (Cabotegravir Long-Acting) ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ในการป้องกันเอชไอวีด้วยการฉีดยาทุก 2 เดือน ไม่ต้องกินยาทุกวัน ลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพร็พเหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีคู่นอนติดเชื้อเอชไอวี การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่รับการรักษา และไม่ใช้ถุงยางอนามัยเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ​
  • ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน การมีคู่นอนหลายคนเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากมีโอกาสที่จะได้รับเชื้อมากขึ้น
  • ผู้ที่ทำงานด้านบริการทางเพศ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการให้บริการทางเพศมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอชไอวี
  • ผู้ที่ใช้สารเสพติดชนิดฉีด การใช้สารเสพติดฉีดเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากอาจพลาดใช้เข็มร่วมกัน
  • ผู้ที่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา

ข้อควรรู้ก่อนเริ่มใช้เพร็พ

ก่อนเริ่มใช้เพร็พ จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย โดยต้องตรวจหาเชื้อเอชไอวี เพื่อยืนยันว่าไม่ได้ติดเชื้อมาก่อน รวมถึงตรวจสุขภาพเพิ่มเติม เช่น

  • การทำงานของไต
  • การตั้งครรภ์ (ในเพศหญิง)
  • การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ

การเริ่มต้นใช้ยาและการดูแลระหว่างใช้เพร็พ

หลังจากเริ่มกินเพร็พ ต้องใช้เวลาประมาณ 7 วัน จึงจะมีระดับยาคงที่ในร่างกายและสามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้องกินยาอย่างสม่ำเสมอทุกวันการใช้เพร็พ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียง เช่น

  • เวียนศีรษะ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • อ่อนเพลีย มึนงง

อาการเหล่านี้มักหายไปเองในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ในระยะยาวอาจมีผลต่อกระดูกและไต ซึ่งจำเป็นต้องมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

การติดตามสุขภาพระหว่างใช้เพร็พ

  • ตรวจหาเชื้อเอชไอวีทุก 3 เดือน
  • ตรวจการทำงานของไตทุก 6 เดือน (โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยาแบบกินทุกวัน)
  • คัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

การใช้เพร็พอย่างถูกต้องและภายใต้การดูแลของแพทย์ช่วยให้สามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภั

ข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้เพร็พ

แม้ว่าเพร็พจะเป็นวิธีป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีที่มีประสิทธิภาพ แต่การป้องกันอื่น ๆ ก็สำคัญ การใช้ยาป้องกันเอชไอวีอาจทำให้การป้องกันวิธีอื่นลดลง เช่น การใช้ถุงยางลดลง หรือยังใช้เข็มฉีดยาร่วมกันกับผู้อื่น โดยในความเป็นจริงแล้ว การใช้ถุงยางอนามัยยังคงเป็นเรื่องสำคัญ แม้จะกินยาต้านเอชไอวีแล้วก็ตาม เพราะยาต้านเอชไอวีไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อได้ 100% และยังขาดคุณสมบัติหลายอย่างที่ไม่สามารถป้องกันได้เหมือนถุงยางอนามัย ได้แก่ ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้ เช่น หนองใน ซิฟิลิส 

เพร็พ เป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี หากใช้อย่างถูกวิธี โดยควรกินอย่างสม่ำเสมอ ตรวจเลือดตามกำหนด และใช้ร่วมกับมาตรการป้องกันอื่น ๆ เช่น การใช้ถุงยางอนามัย หากคุณมีความเสี่ยงและต้องการป้องกันตัวเองจากเอชไอวี ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้เพร็พที่เหมาะสมที่สุด

 

ข้อมูลโดย
ศ. พญ.ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล
สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

คลิกชมคลิปรายการ Rama Focus | ทำความเข้าใจเพร็บ ช่วยต้าน เอชไอวี ได้ที่นี่


ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 

Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: RAMA Channel
Facebook: รามาแชนแนล Rama Channel
LINE: Ramathibodi
Tiktok: ramachanneltv รามาแชนแนล ช่องของคนรักสุขภาพ

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

โรคตับคั่งไขมัน รู้ให้ทัน ปรับพฤติกรรมให้ไว
โรคตับคั่งไขมันเป็นภาวะที่ไขมันสะสมในตับมากเกินไป เสี่ยงตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับ หากรู้ทันและรีบปรับพฤติกรรมการกิน ออกกำลังกาย
บทความสุขภาพ
09-09-2025

0

OPD และ IPD ต่างกันอย่างไร ?
OPD และ IPD คือการใช้บริการในโรงพยาบาลที่ต่างกัน OPD คือผู้ป่วยนอกที่ไม่ต้องนอนรักษา ส่วน IPD คือผู้ป่วยในที่ต้องนอนพักรักษาตัวภายใต้การดูแล
บทความสุขภาพ
08-09-2025

0

ยาคลายกล้ามเนื้อ Tolperisone
ยาคลายกล้ามเนื้อ Tolperisone การใช้บ่อย ๆ อาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง เช่น เวียนศีรษะ ง่วงซึม ความดันต่ำ หรือดื้อยาได้ ควรใช้ภายใต้คำแนะนำ
บทความสุขภาพ
08-09-2025

1

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปวด แสบ ขัด
กระเพาะปัสสาวะอักเสบทำให้ปัสสาวะแสบ ขัด และปวดบ่อย หากละเลยอาจลุกลามเป็นกรวยไตอักเสบ ควรรู้ทันอาการ สาเหตุ และวิธีป้องกันอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
07-09-2025

0

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL