เลือดกำเดา ส่วนมากจะไม่ใช่อาการร้ายแรง ห้ามเลือดสักพักเลือดก็หยุดไหลได้เอง แต่บางครั้งอาจเป็นอาการอันตรายที่บ่งบอกถึงโรคบางอย่างได้
หน้าแรก
เลือดกำเดาไหล กับความเชื่อแบบผิด ๆ

เลือดกำเดาไหล กับความเชื่อแบบผิด ๆ

เลือดกำเดาไหล เป็นอาการที่หลายคนอาจเคยเป็นมาก่อน แม้ส่วนมากจะไม่ใช่อาการร้ายแรง ห้ามเลือดสักพักเลือดก็หยุดไหลได้เอง แต่บางครั้ง เลือดกำเดา ไหลอาจเป็นอาการอันตรายที่บ่งบอกถึงโรคบางอย่างได้ 

เลือดกำเดา ไหลคืออะไร

เลือดกำเดาไหล คือ อาการเส้นเลือดฝอยแตกบริเวณโพรงจมูก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เลือดกำเดาไหลจากเส้นเลือดฝอยด้านหน้ากับเลือดกำเดาไหลจากเส้นเลือดฝอยด้านหลัง เลือดกำเดาไหลจากเส้นเลือดฝอยด้านหน้าแตกเป็นประเภทที่พบได้บ่อย ไม่รุนแรง และหยุดเองได้ แต่หากเกิดจากเส้นเลือดฝอยด้านหลังแตกจะเกิดเลือดออกรุนแรง และมักเกิดในผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีก้อนเนื้องอกบริเวณหลังโพรงจมูก 

สาเหตุของเลือดกำเดาไหล

ส่วนมากเกิดจากการแคะ แกะ เกา ถูกกระแทกบริเวณใบหน้าอย่างรุนแรง นอกจากนี้ การเป็นหวัดก็อาจทำให้เส้นเลือดฝอยบริเวณปลายจมูกเกิดความเปราะบาง เสียหาย แล้วเกิดเลือดดำเดาไหลได้ ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อความแข็งแรงของเส้นเลือดฝอยบริเวณปีกจมูก คือ การรับประทานวิตามินซี และการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะวิตามินซีทำหน้าที่ซ่อมแซมเส้นเลือดฝอยบริเวณปลายจมูก 

4 ความเชื่อเรื่อง เลือดกำเดา ไหล

หลายคนคงเคยได้รับข้อมูลที่แชร์ต่อกันมาถึงวิธีการปฐมพยาบาลเมื่อเลือดกำเดาไหล หรือสัญญาณบอกโรคเมื่อมีอาการนี้ ความเชื่อเหล่านี้จริงหรือไม่

  • ความเชื่อที่ 1 เลือดกำเดาไหลให้เงยหน้าจนกว่าเลือดจะหยุด
    ความเชื่อนี้ไม่จริง เมื่อเงยหน้าขึ้น เลือดกำเดาจะยิ่งไหลลงไปในคอมากขึ้น หากไม่สามารถไอออกมาได้อาจเกิดการสำลักลงปอด ฉะนั้น เมื่อเลือดกำเดาไหลควรบีบจมูกแล้วก้มหน้าลงจะช่วยให้เลือดกำเดาหยุดไหลได้
  • ความเชื่อที่ 2 เลือดกำเดาไหลให้ประคบน้ำแข็ง
    ความเชื่อนี้จริงบางส่วน เนื่องจากการประคบน้ำแข็งต้องประคบในบริเวณที่ถูกต้อง คือ บริเวณเส้นเลือดปลายจมูก แต่บ่อยครั้งคนส่วนมากมักประคบบริเวณหน้าผาก ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่มีเส้นเลือด
  • ความเชื่อที่ 3 เลือดกำเดาไหลเป็นประจำแสดงว่าความดันเลือดผิดปกติ
    ความเชื่อนี้จริงบางส่วน สาเหตุของเลือดกำเดาไหลมักเกิดจากความเปราะบางของเส้นเลือดฝอยบริเวณปลายจมูกที่เกิดจากภูมิแพ้ ไข้หวัด หรือการแคะ แกะ เกาจมูก อย่างไรก็ตาม เลือดกำเดาไหลที่เกิดจากความดันเลือดสูงที่ควบคุมโรคได้ไม่ดีก็เป็นสาเหตุที่พบได้เช่นกัน แต่พบได้ไม่บ่อยนัก
  • ความเชื่อที่ 4 เลือดกำเดาไหลและมีอาการเจ็บอาจเป็นเนื้องอก
    ความเชื่อนี้ไม่จริง เนื้องอกส่วนใหญ่มักอยู่บริเวณหลังโพรงจมูก หากมีเลือดออกจากเนื้องอกมักจะไหลออกจากจมูกทั้ง 2 ข้าง เลือดจะไหลมากและไหลไม่หยุดจนอาจเกิดภาวะช็อกหรือซีดได้ นอกจากนี้ คนไข้มักมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คัดจมูก มีน้ำมูก บางรายอาจมีเบื่ออาหาร น้ำหนักลด มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต เป็นอาการที่พบได้ไม่มาก และแตกต่างจากภาวะเลือดกำเดาไหลจากเส้นเลือดฝอยที่เลือดจะไหลเพียงเล็กน้อย และหยุดเองได้ 

เลือดกำเดาไหลแบบไหนต้องไปพบแพทย์

หากเลือดกำเดาไหลไม่หยุด หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คัดจมูก ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต เบื่ออาหารหรือน้ำหนักลด อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของเนื้องอกบริเวณหลังโพรงจมูกได้ ควรรีบมาพบแพทย์ 

วิธีปฐมพยาบาลเมื่อเลือดกำเดาไหล

เมื่อเลือดกำเดาไหลให้ก้มหน้าลง แล้วใช้มือบีบบริเวณปีกจมูกทั้ง 2 ข้างประมาณ 5 นาที วิธีนี้เป็นการห้ามเลือดด้วยการกดบริเวณหลอดเลือดฝอยส่วนปลาย เกล็ดเลือดจะมาอุดบริเวณเส้นเลือดฝอยทำให้เลือดหยุดไหลได้ นอกจากนี้ อาจใช้น้ำแข็งมาประคบบริเวณสันจมูกหรือปีกจมูกด้วยก็ได้ เพื่อช่วยให้เลือดหยุดไหลเร็วขึ้น

แม้ว่าเลือดกำเดาไหลจะเป็นอาการที่พบได้บ่อย หากเรารู้วิธีปฐมพยาบาลอย่างถูกต้อง เลือดกำเดาไหลก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวแต่อย่างใด แต่หากสังเกตว่าเลือดกำเดาไหลผิดปกติ ไม่ควรนิ่งนอนใจ แนะนำให้รีบมาพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยต่อไป

 

ข้อมูลจาก

ผศ. นพ.วีระวัฒน์ เธียรประธาน

ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

 

อย่าลืมกดติดตามช่อง Rama Channel ที่น่าสนใจอีกมากมายได้ที่ 

Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: https://www.youtube.com/RamachannelTV
Facebook : https://www.facebook.com/ramachannel
Line: https://page.line.me/ramathibodi
Tiktok: https://www.tiktok.com/@ramachanneltv

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

หยุด! อาการปวดส้นเท้า
อาการปวดส้นเท้าอาจเกิดจากรองช้ำหรือการใช้งานเท้าหนักเกินไป หากไม่ดูแลอาจเรื้อรัง รู้วิธีป้องกันและบรรเทาอาการอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
26-06-2025

3

มะเร็งลำไส้ โรคร้ายที่ไม่เลือกวัย
มะเร็งลำไส้ใหญ่พบได้ทุกวัย ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุ อาการแอบแฝง ตรวจพบเร็วช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิต รู้ทันสัญญาณเตือนและแนวทางป้องกัน
บทความสุขภาพ
25-06-2025

5

Get to know “H. pylori” before becoming a victim of stomach cancer
เชื้อเอชไพโลไร (H. pylori) อาจดูธรรมดาแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของมะเร็งกระเพาะอาหาร หากตรวจพบเร็วสามารถรักษาและป้องกันได้ทัน
บทความสุขภาพ
23-06-2025

1

ป้องกันอย่างไร ไม่ให้เกิดอาการปวดหน้าเท้า
อาการปวดหน้าเท้าอาจเกิดจากรองเท้าไม่พอดี น้ำหนักตัว หรือการใช้งานเท้าเกินพอดี รู้วิธีป้องกันและบรรเทาอาการอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
19-06-2025

5

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL