หลอดเลือดสมองแตก หรือ เส้นเลือดในสมองแตก โรคที่เกิดจากความเสื่อมของหลอดเลือด มาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น นำไปสู่ภาวะการตีบ ตัน และแตกได้ในที่สุด
หน้าแรก
เช็ก ! สัญญาณเตือนหลอดเลือดในสมองแตก

เช็ก ! สัญญาณเตือนหลอดเลือดในสมองแตก

เส้นเลือดในสมองแตก หรือ หลอดเลือดสมองแตก เป็นอาการที่พบได้บ่อยในปัจจุบันถือว่าเป็นอาการของโรคร้ายแรง ซึ่งหากไม่ได้รับการวินิจฉัยและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิต ดังนั้น การป้องกันหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง รวมถึงการเฝ้าระวังและคอยสังเกตอาการจึงเป็นทางออกของผู้ที่อาจเป็นโรคนี้ได้

หลอดเลือดในสมองแตกเกิดจากอะไร ?

เส้นเลือดในสมองแตกหรือหลอดเลือดสมองแตก เกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักเกิดจากหลอดเลือดในสมองที่มีความเสื่อมสะสมจากสาเหตุต่าง ๆ ซึ่งนอกจากทำให้หลอดเลือดแตกได้แล้ว หลอดเลือดที่เสื่อมสภาพนั้นอาจจะตีบ อุดตัน ทำให้สมองขาดการหล่อเลี้ยงจากเลือด ส่งผลทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ หากสมองขาดออกซิเจนเป็นระยะเวลานานก็จะทำให้เซลล์สมองตาย และอาจกลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิต

ใครบ้างเสี่ยงอาการหลอดเลือดสมองแตก ?

กลุ่มคนที่เสี่ยงอาการหลอดเลือดสมองแตกบ่อยที่สุดคือผู้ป่วยวัยสูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เนื่องจากการเสื่อมของอวัยวะที่ผ่านไปตามกาลเวลา ตามวัยของมนุษย์ที่มากขึ้นทำให้ระบบการทำงานของอวัยวะต่างถดถอยลง ทั้งนี้มีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ความเสื่อมของหลอดเลือดสมองเกิดได้มากขึ้น ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการควบคุม ไขมันสูง เบาหวาน การสูบบุหรี่ ผู้ที่ดูแลสุขภาพสม่ำเสมอ ออกกำลังประจำ เลี่ยงอาหารประเภทแป้งและไขมัน รวมทั้งการควบคุมภาวะต่าง ๆ ดังกล่าวได้ดีมักมีความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองต่ำกว่าผู้ที่ละเลยการดูแลสุขภาพ ทั้งนี้อาจพบหลอดเลือดสมองแตกในผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่าที่พบโดยทั่วไป ผู้ป่วยเหล่านี้มักมีความผิดปกติของหลอดเลือดตั้งแต่กำเนิดซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

เช็ก ! สัญญาณอันตราย หลอดเลือดสมองแตก

อาการที่บ่งบอกว่าอาจเกิดอาการหลอดเลือดสมองแตกได้นั้นมีลักษณะเฉียบพลันเหมือนกับอาการหลอดเลือดสมองตีบซึ่งผู้ป่วยหรือผู้เห็นเหตุการณ์ (ในกรณีที่ผู้ป่วยหมดสติ) มักจะสามารถเล่าได้ว่าผู้ป่วยกำลังทำอะไรอยู่เมื่อเกิดอาการขึ้นมาทันทีในขณะนั้น ทั้งนี้ อาการเฉียบพลันทันทีของผู้ป่วยหลอดเลือดสมองแตกอาจมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดก้อนเลือดที่แตกออกมาจากหลอดเลือดสมอง สัญญาณอันตรายเหล่านี้เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยโรคนี้ เช่น

  • อาการชาหรืออ่อนแรงที่ใบหน้า แขน หรือขา ซึ่งมักจะเป็นร่างกายซีกซ้ายหรือซีกขวาเพียงด้านเดียว สับสน พูดไม่ชัด หรือไม่เข้าใจคำพูดของผู้อื่น
  • ปัญหาในด้านการมอง อาจเกิดขึ้นที่ตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง
  • ปัญหาในการเดิน ทรงตัว หรือการประสานงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย
  • ปวดศีรษะอย่างรุนแรงโดยเฉพาะที่มีระดับความปวดที่มากที่สุดในชีวิตที่ผู้ป่วยเคยประสบมา อาการจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและไม่มีสาเหตุนำมาก่อนที่ชัดเจน
  • วิงเวียน คลื่นไส้ หรืออาเจียนผิดปกติ

หากตนเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการเหล่านี้ ควรรีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที เนื่องจากอาการหลอดเลือดสมองแตกหรือภาวะเส้นเลือดฝอยในสมองแตกเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ที่ต้องได้รับการวินิจฉัยโดยไม่ล่าช้า และหากพบว่ามีภาวะหลอดเลือดสมองแตกแล้ว ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อลดความเสี่ยงของความเสียหายของสมองและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจตามมาภายหลัง

บทความ เรื่อง หลอดเลือดสมองแตก หรือ เส้นเลือดในสมองแตก โรคที่เกิดจากความเสื่อมของหลอดเลือด มาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น นำไปสู่ภาวะการตีบ ตัน และแตกได้ในที่สุด

การรักษาหลอดเลือดสมองแตก หายได้หรือไม่ ?

อาจมีคำถาม เส้นเลือดในสมองแตก มีโอกาสรอดไหม ? แล้วเมื่อเส้นเลือดในสมองแตกขึ้นมาจะรักษาหายไหม คำตอบก็คือ สามารถทำการรักษาได้ และมีโอกาสรอดชีวิตหากเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที โดยวิธีการรักษามี 2 วิธีหลัก ๆ ดังนี้

  1. การรักษาด้วยยา
    ผู้ป่วยหลอดเลือดสมองแตกส่วนมากใช้การรักษาแบบประคับประคอง โดยในบางกรณีที่แพทย์พิจารณาว่าตำแหน่งของก้อนเลือดอยู่ในจุดที่ลึกมากของสมองทำให้ความเสี่ยงการผ่าตัดสูง ดังนั้นในผู้ป่วยที่อาการไม่วิกฤตถึงขั้นเสียชีวิต แพทย์อาจพิจารณารักษาแบบประคับประคองโดยใช้ยาลดความดันเลือดเนื่องจากผู้ป่วยหลอดเลือดสมองแตกมักมีภาวะความดันเลือดสูงเป็นปัจจัยหลัก โดยที่ยาลดความดันเลือดนี้ช่วยลดโอกาสที่ก้อนเลือดขยายปริมาตรเป็นขนาดใหญ่ขึ้น (ที่อาจจำเป็นต้องผ่าตัด) ได้ เมื่อการใช้ยาลดความดันชนิดฉีดหรือหยดทาสามารถควบคุมความดันเลือดได้ดีอย่างสม่ำเสมอแล้วแพทย์จะพิจารณาเปลี่ยนเป็นยาชนิดรับประทานแทนในเวลาต่อมา
  2. การผ่าตัด
    สำหรับผู้ป่วยส่วนน้อย การผ่าตัดเป็นขั้นตอนการรักษาที่อาจมีความจำเป็นและถ้าหากประเมินแล้วว่าการผ่าตัดน่าจะมีประโยชน์อย่างแท้จริงต่อผู้ป่วย แพทย์จะมักพิจารณาผ่าตัดเป็นกรณีเร่งด่วนในกลุ่มผู้ป่วยที่เกิดหลอดเลือดสมองแตกเฉียบพลัน ทั้งนี้ แม้ว่าการผ่าตัดสมองเพื่อรักษาภาวะหลอดเลือดสมองแตกอาจช่วยให้ผู้ป่วยรอดชีวิตในขณะนั้นได้ แต่เนื่องจากก้อนเลือดที่มีขนาดต่าง ๆ กัน ตำแหน่งที่เกิดเลือดออกที่ตำแหน่งต่างกัน รวมทั้งสภาวะของผู้ป่วยก่อนทำการรักษา เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความพิการทุพพลภาพถาวรแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย การรับทราบข้อมูล ความเป็นไปได้หรือความน่าจะเป็นของสภาพผู้ป่วยหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการรักษาในการหารือแนวทางระหว่างแพทย์ผู้รักษากับตัวผู้ป่วยเองหรือกับญาติผู้ป่วย (กรณีผู้ป่วยหมดสติ) จึงมีความสำคัญอย่างมากในการวางแผนร่วมกัน

นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว การฟื้นฟูสมรรถภาพยังเป็นส่วนสำคัญของการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง การฟื้นฟูสมรรถภาพสามารถช่วยปรับปรุงการทำงานของร่างกายและจิตใจที่ได้รับผลกระทบจากอาการหลอดเลือดสมองแตกได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้น้ำตาลหรือไขมันสูง ควบคุมระดับความดันเลือดให้เหมาะสม

วิธีการป้องกัน หลอดเลือดสมองแตก

วิธีการป้องกันหลอดเลือดสมองแตกเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถดูแลตนเองได้ ก่อนเกิดโรคหลอดเลือดจริงเพราะเมื่อเกิดโรคแล้ว ย่อมมีความเสียหายพิการทุพพลภาพที่กระทบต่อการดำรงชีวิตไม่มากก็น้อย

ทั้งนี้วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสามารถทำได้ไม่ยาก หากใส่ใจและรักในสุขภาพร่างกายของตนเอง รวมไปถึงการตรวจเช็กความผิดปกติของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการรู้ถึงอาการของโรคได้อย่างรวดเร็วก็สามารถรักษา และป้องกันอันตรายร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ วิธีการป้องกันซึ่งสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้

  • ควบคุมความดันเลือด : ความดันเลือดสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญสำหรับโรคหลอดเลือดสมอง การรักษาความดันเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงหลอดเลือดสมองแตกได้
  • ควบคุมระดับคอเลสเตอรอล : คอเลสเตอรอลสูงสามารถนำไปสู่การสะสมของคราบจุลินทรีย์ในหลอดเลือดแดง ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบตันหรือแตกได้ 
  • เลิกสูบบุหรี่ : การสูบบุหรี่จะทำลายหลอดเลือดและเพิ่มความเสี่ยงของหลอดเลือดสมองแตก การเลิกสูบบุหรี่จึงเป็นสิ่งที่ดี สามารถทำได้เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรค
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ : การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้หัวใจแข็งแรงและลดความดันเลือด การออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน สามารถช่วยลดความเสี่ยงการเกิดหลอดเลือดสมองแตกได้
  • รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ : อาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือดประกอบด้วยผลไม้ ผัก ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนไม่ติดมัน อาหารประเภทนี้สามารถช่วยลดความดันเลือดและระดับคอเลสเตอรอล
  • จำกัดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ : การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจเพิ่มความดันเลือดและความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง จนนำไปสู่การเกิดหลอดเลือดสมองแตก ดังนั้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ลดน้อยลงสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้
  • จัดการความเครียด : ความเครียดอาจเพิ่มความดันเลือดและความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองแตก การจัดการความเครียดให้อยู่ในสภาวะปกติอย่างมีสุขภาพจิตที่ดีสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้เช่นกัน

สิ่งสำคัญที่สุดของการป้องกันหลอดเลือดสมองแตก คือการประเมินความเสี่ยงของสุขภาพร่างกาย แต่หากเกิดอาการของโรคขึ้นแล้ว

สามารถทำได้ด้วยการรักษาตามอาการเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจส่งผลต่อร่างกายที่หนักขึ้น หรืออาจเสี่ยงถึงแก่ชีวิต การหมั่นตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนในยุคสมัยนี้ควรตระหนักให้มากขึ้น 

 

ข้อมูลจาก

ศ. นพ.เอก หังสสูต 

สาขาวิชาประสาทศัลยศาสตร์ ภาควิชาศัลยศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

 

อย่าลืมกดติดตามช่อง Rama Channel ที่น่าสนใจอีกมากมายได้ที่ 

Website: https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/

Website Rama mahidol : https://www.rama.mahidol.ac.th/

Facebook: https://www.facebook.com/ramachannel

Line: https://page.line.me/ramathibodi

Tiktok: https://www.tiktok.com/@ramachanneltv

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

รู้ทัน ถุงน้ำในตับอ่อน เสี่ยงทุกวัย ไม่เลือกเพศ
ถุงน้ำในตับอ่อนเป็นโรคเงียบที่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย อาจไม่มีอาการแต่เสี่ยงกลายเป็นมะเร็ง รู้ทันเพื่อวางแผนตรวจและรักษาอย่างทันท่วงที
บทความสุขภาพ
29-05-2025

7

แพทย์เตือน ! ห้าม ล้างไก่สด ก่อนปรุง
การล้างไก่สดก่อนปรุงอาจกระจายเชื้อแบคทีเรียอย่างแคมไพโลแบคเตอร์ไปยังอ่างล้างจานและเครื่องครัว เสี่ยงปนเปื้อนอาหารและทำให้เกิดโรคท้องร่วง
บทความสุขภาพ
28-05-2025

10

โรคพยาธิในช่องคลอด-ภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในร่างกายผู้หญิง
โรคพยาธิในช่องคลอดเกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว มักมีอาการตกขาวมีกลิ่น คัน แสบ หากไม่รักษาอาจลุกลามและส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง
บทความสุขภาพ
25-05-2025

7

ปานสีน้ำตาล-ภาวะผิวผิดปกติที่พบได้ตั้งแต่กำเนิด
ปานสีน้ำตาลเกิดจากเม็ดสีผิวผิดปกติ อาจเป็นเพียงความสวยงามตามธรรมชาติหรือสัญญาณโรคร้าย ควรหมั่นสังเกตขนาด สี และรูปร่างที่เปลี่ยนแปลง
บทความสุขภาพ
22-05-2025

5

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL