กินผงชูรสมากทำให้ผมร่วงจริงหรือไม่?
มารู้จักผงชูรสกันก่อน
ผงชูรส มีสารสําคัญคือ โมโนโซเดียมกลูตาเมท หรือที่ย่อกันว่า MSG ซึ่งประกอบด้วยโซเดียมและกรดกลูตามิก โซเดียมคือเกลือ ส่วนกรดกลูตามิกคือกรดอะมิโนชนิดหนึ่งซึ่งเป็นส่วนประกอบของโปรตีน กรดกลูตามิกเป็นแหล่งพลังงานให้แก่ร่างกาย ทําให้ร่างกายสร้างกรดอะมิโนจําเป็นตัวอื่น และยังเป็นส่วนประกอบของสารกลูตาไธโอนอีกด้วย องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาได้จัดให้ MSG เป็นสารที่ปลอดภัย หรือที่เรียกว่า Generally Recognized as Safe (GRAS)
มีการรายงานผลของ MSG ต่อร่างกายในวารสารทางการแพทย์ตั้งแต่ 40 กว่าปีมาแล้ว โดยพบในผู้ที่รับประทานอาหารจีนและเกิดอาการชาที่แขน คอ และหลัง ร่วมกับอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ใจสั่น แน่นหน้าอก หน้าแดง และเป็นลม ซึ่งเป็นอาการที่รู้สึกไม่สบายชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นในบางคนเท่านั้น โดยกลุ่มอาการดังกล่าวเรียกว่า Chinese restaurant syndrome หรืออีกชื่อหนึ่งคือ MSG symptom complex นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า อาจจะมีการกระตุ้นให้โรคหอบหืดและไมเกรนกําเริบได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเพราะ MSG หรือไม่ เพราะในอาหารมีส่วนประกอบหลายชนิด อีกทั้งข้อมูลจากการทดลองอย่างรอบคอบแบบไม่ให้ผู้ทดลองและผู้ถูกทดลองทราบ ผลปรากฏว่าผู้ที่เคยอ้างว่าเกิดอาการที่กล่าวข้างต้น กลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เกิดขึ้นเลย เมื่อรับประทาน MSG ดังนั้นอาการดังกล่าวที่เคยมีรายงานนี้จึงยังไม่สามารถสรุปได้เกี่ยวกับ MSG
กินผงชูรสมากทำให้ผมร่วงจริงหรือไม่?
คําตอบคือ...ไม่จริง นะคร๊าบบบบบบบ
สําหรับเรื่องผมร่วงยังไม่พบว่ามีรายงานในวารสารทางการแพทย์ หรือแม้แต่ข้อมูลจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ตัวอย่างที่เจอได้บ่อยๆ คือคนที่ผมบางหรือเป็นโรคผมร่วงมักจะพยายามหาสาเหตุหรือคําอธิบายต่างๆ นานา ว่าทําไมถึงผมบาง แล้วก็มักจะนําเรื่องมาผูกกับอาหารการกิน และการดําเนินชีวิตประจําาวัน ทั้งๆ ที่จริงแล้วเกิดจากความผิดปกติของหนังศีรษะและเส้นผมเอง หลายครั้งที่ผมเจอคนไข้มาปรึกษาเรื่องผมบางแล้วบอกว่า ลองหลีกเลี่ยง MSG แล้ว แต่ผมก็ยังร่วงอยู่ คําตอบนี้ก็พอจะยืนยันได้ว่า MSG กับผมร่วงไม่เกี่ยวกัน ด้วยข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ ผมคิดว่า MSG กับผมร่วงน่าจะเป็นความเข้าใจผิดที่ถูกบอกกล่าวจากรุ่นสู่รุ่นมากกว่าครับ
ผู้เขียน : อ. นพ.วาสนภ วชิรมน หน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ติดตามข้อมูลสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่