‘โรคอ้วนในเด็กและวัยรุ่น’ โรคร้ายที่ประทุขึ้นในศตวรรษนี้

‘โรคอ้วนในเด็กและวัยรุ่น’ โรคร้ายที่ประทุขึ้นในศตวรรษนี้

‘โรคอ้วนในเด็กและวัยรุ่น’ โรคร้ายที่ประทุขึ้นในศตวรรษนี้

ข้อเท็จจริง

ที่ยอมรับกันทั่วโลกคือภาวะอ้วนตั้งแต่เด็ก เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาวานในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีพ่อแม่ หรือคนในครอบครัวเป็นเบาหวานด้วย จะยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน มากขึ้น รวมทั้งเด็กอ้วนมีต้นคอและรักแร้ดําเป็นปื้นหนา นั่นบ่งบอกถึงความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวาน โรคเบาหวานเป็นโรคที่ไม่หายขาด เพราะฉะนั้นควรรีบป้องกันก่อนที่จะเป็นโรคประจําตัวตลอดชีวิต ปัจจุบันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีเด็กและวัยรุ่นที่มีโรคอ้วนหรือภาวะโภชนาการเกินเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเป็น ปัญหาสุขภาพ ที่สําคัญของประเทศ

ปัจจัยอะไรบ้างที่ทําให้เด็กอ้วน

  1. การกินอาหาร ปัจจุบันมีการกินอาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า ไก่ทอด มากขึ้น เนื่องจากสะดวก หาซื้อง่าย รสชาติอร่อย พ่อแม่เร่งรีบไม่มีเวลาที่จะประกอบอาหารเอง ต้องกินอาหารนอกบ้าน หรืออาหารถุง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีไขมันและแป้งมาก ทําให้มีการสะสมของพลังงานมากและทําให้อ้วน
  2. วิถีการดํารงชีวิต (Life style) ปัจจุบันการดําเนินชีวิตประจําวัน มีการออกกําลังกายลดลง ใช้ยานพาหนะและสิ่งอํานวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้น มีกิจกรรมกลางแจ้งหรือกีฬาลดลง แต่มีการเล่นเกม ดูโทรทัศน์ การใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ทําให้มีการเผาผลาญพลังงานน้อยลง ทําให้อ้วนในที่สุด
‘โรคอ้วนในเด็กและวัยรุ่น’ โรคร้ายที่ประทุขึ้นในศตวรรษนี้

เด็กอ้วนมีความเสี่ยงต่อโรคอื่นๆ อีกมากมาย

  1. กลุ่มอาการเมตาบอลิก (metabolic syndrome) ได้แก่ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ซึ่งสามารถมีอาการได้ตั้งแต่วัยเด็ก หรือวัยรุ่น และคงอยู่หรือรุนแรงขึ้นเมื่อเป็นผู้ใหญ่
  2. โรคระบบหายใจ ได้แก่ นอนกรน ทางเดินหายใจอุดกั้น ทําให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการทํางานของหัวใจและปอดที่ผิดปกติ
  3. โรคทางข้อและกระดูก ได้แก่ ปวดเข่าและสะโพก กระดูกขาผิดรูป
  4. โรคตับ ได้แก่ การสะสมของไขมันที่ตับ ทําให้การทํางานของตับผิดปกติ
  5. ปัญหาทางจิตและสังคม เด็กและวัยรุ่นที่อ้วนจะทําให้มีบุคลิกภาพที่ไม่ดี โดนเพื่อนล้อ บางคนมีต้นคอ และรักแร้ดําคล้ำเป็นปื้นหนาคล้ายขี้ไคล แต่ขัดไม่ออก

จะดูแลเด็กอ้วนอย่างไร

1. การควบคุมอาหาร เพื่อลดปริมาณพลังงานที่ร่างกายได้รับ แต่มีข้อควรระวังคือไม่ควรจํากัดอาหารและพลังงานมากเกินไป คือพลังงานที่ให้ควรอยู่ระหว่างวันละ 1,200-1,500 กิโลแคลอรี่ ในเด็กอายุ 6-12 ปี และมีหลักการทั่วไป ดังนี้

- กินผักและผลไม้ให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 5 ส่วน เพราะผักและผลไม้ส่วนมากไม่มีไขมันหรือมีน้อย และให้พลังงานน้อยมาก เช่น แครอท เห็ด มะเขือเทศ ถั่วแขก บร็อคโคลี่ คะน้า ผักใบเขียวต่างๆ

- กินอาหารที่มีกากใยมาก เช่น ธัญพืช ถั่ว จะช่วยทําให้อิ่มเร็ว

- กินอาหารที่มีแคลเซียมให้เพียงพอ

- ดื่มน้ำมากๆ ประมาณ 6-8 แก้วต่อวัน ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนกินอาหารจะทําให้รู้สึกอิ่มได้ส่วนหนึ่ง

- ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้มากเกินไป เช่น ในเด็กอายุ 1-6 ปี ไม่ควรดื่มเกินวันละ 120-150 ซีซี และในเด็กอายุ 7-18 ปี ไม่ควรดื่มวันละ 240-360 ซีซ

‘โรคอ้วนในเด็กและวัยรุ่น’ โรคร้ายที่ประทุขึ้นในศตวรรษนี้

- ควรลดหรืองดการดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม ทุกชนิด

- ไม่ควรกินอาหารที่มีแป้ง ไขมัน และน้ำตาลมาก เลือกกินอาหารที่ไม่มีไขมัน หรือมีไขมันต่ำ เช่น ผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันต่ำคือ นมพร่องมันเนย เลาะหนังไก่ออกก่อนปรุง เลือกเนื้อแดงที่เลาะมันออกแล้ว

2. การปรับพฤติกรรมการกินอาหาร

- กินอาหารให้ครบวันละ 3 มื้อ ไม่ใช้วิธีงดมื้อใดมื้อหนึ่ง เพราะจะทําให้หิวมาก และกินมากในมื้อถัดไป

- อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่สําคัญ การงดอาหารมื้อเช้าอาจทําให้อ้วนได้

- เลือกชนิดของอาหารว่าง โดยพยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาล หรือไขมันมาก เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ ไอศกรีม ลูกกวาด คุ้กกี้ เค้ก น้ำอัดลม ช็อกโกแลต ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง สังขยา

- ลดการกินอาหารนอกบ้าน เพราะทําให้เพิ่มความเสี่ยงที่จะอ้วนได้มาก เนื่องจากเลือกกินอาหารที่ชอบได้  หลายๆ อย่าง จึงทําให้เจริญอาหาร และมักจะตบท้ายด้วยของหวาน และไอศกรีม

3. การออกกําลังกายและกิจกรรมต่างๆ

- ลดการดูโทรทัศน์ คือไม่ควรเกินวันละ 1-2 ชั่วโมง รวมทั้งลดการเล่นเกม และคอมพิวเตอร์

- ออกกําลังกายหนักปานกลางอย่างน้อยวันละ 30-60 นาที อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ โดยเริ่มจากน้อยๆ ก่อนในเด็กที่อ้วนมาก

- ส่งเสริมให้มีกิจกรรมการออกกําลังกายของครอบครัว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เด็ก และสร้างพฤติกรรมปลูกฝังให้เด็กรักการออกกําลังกายเป็นกิจวัตรประจําวัน ทั้งนี้แล้ว การที่จะประสบความสําเร็จในการควบคุม

‘โรคอ้วนในเด็กและวัยรุ่น’ โรคร้ายที่ประทุขึ้นในศตวรรษนี้

น้ำหนักของเด็กอ้วน จะต้องประกอบไปด้วยความร่วมมือของตัวเด็กเองและครอบครัว เพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและปัจจัยต่างๆ

ตัวอย่างปริมาณและแคลอรี่ในอาหารต่างๆ จากอาหารประเภทต่างๆ

อาหาร ปริมาณ กิโลแคลอรี่
ข้าวสุก 1 ทัพพี 68 
ขนมปังกรอบ (สี่เหลี่ยม) 2 แผ่น 68
คอร์นเฟลค 1 ถ้วยตวง 100
ข้าวโพด 1 ฝัก 130
ผัดผักคะน้าน้ำมันหอย 1 จาน 70
ผัดถั่วงอกกับน้ำมัน 1 จาน 70
สลัดผัก (น้ำใสไม่ใส่น้ำตาล) 1 จาน 61
แอปเปิ้ล 1 ผล 40
น้ำส้มคั้น ½ ถ้วย 40
กะทิ 1 ช้อนโต๊ะ 45
น้ำมันทุกชนิด 1 ช้อนชา 45
นมสด 1 กล่อง 167
นมสดยูเอชที 1 กล่อง 177
นมพร่องมันเนย 1 กล่อง 140
นมพาสเจอไรส์ 1 ถุง 142
นมถั่วเหลือง 1 กล่อง 110
นมผง 1/3 ถ้วยตวง 170
ไข่ดาวน้ำมัน 1 ฟอง 125
ไข่เจียว 1 ฟอง 253
โยเกิร์ต (ไม่มีไขมัน) 1 ถ้วย 72-80
โยเกิร์ตรสผลไม้ (ไม่มีไขมัน) 1 ถ้วย 140

‘โรคอ้วนในเด็กและวัยรุ่น’ โรคร้ายที่ประทุขึ้นในศตวรรษนี้

ผู้เขียน : รศ.พญ.เปรมฤดี ภูมิถาวร ศ.นพ.พัฒน์ มหาโชคเลิศวัฒนา หน่วยต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ติดตามข้อมูลสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่

นิตยสารวาไรตี้เพื่อสุขภาพ @Rama ฉบับที่ 8 คลิก

AtRama.mahidol.ac.th