|
Barceloux DG, Krenzelok EP, Olson K, et al. Clin Toxicol 1999;37(5):537-560.
-
เป็นที่ทราบกันดีว่ายาต้านพิษที่ใช้ในการรักษาภาวะพิษที่เกิดจาก ethylene glycol มีทั้ง ethanol และ fomepizole แต่ยังไม่มีการศึกษาใดเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียระหว่างการให้ยาทั้ง 2 ชนิดดังกล่าว
-
บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูล-ความรู้ในปัจจุบันเกี่ยวกับ ethylene glycol ทั้งทางด้านเคมี เภสัชวิทยา พยาธิสรีรวิทยา รวมทั้ง ภาวะเป็นพิษที่เกิดไม่ว่าจะเป็นอาการทางคลินิก การวินิจฉัย และการรักษา
-
Ethanol ถูกนำมาใช้ในการรักษาภาวะพิษจาก ethylene glycol ตั้งแต่ค.ศ. 1965 เนื่องจากมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ alcohol dehydrogenase (ADH) จึงป้องกันไม่ให้เกิด toxic metabolite จาก ethylene glycol แต่ปัญหาในการรักษาด้วย ethanol มีมาก ได้แก่ ethanol มีปฏิกริยาต่อกันระหว่างยากับยาหลายชนิด (เช่น disulfiram, metronidazole, chlorpropamide และยาที่มีฤทธิ์กดระบบประสาทหลายชนิด), ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำในเด็ก, การบริหารการให้ ethanol และการปรับขนาดที่ให้ค่อนข้างยาก ดังนั้นเมื่อไม่นานมานี้จึงมีการแนะนำให้ใช้ยา fomepizole (4-methylpyrazole, 4-MP) ซึ่งเป็นยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งต่อการทำงานของเอ็นไซม์ ADH อย่างแรง (potent inhibitor) โดยได้รับการรับรอง การใช้จากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา ข้อดีของ fomepizole คือ การบริหารยาง่าย, การเกิดผลข้างเคียงจากยาและปฏิกริยาต่อกันระหว่างยามีน้อยกว่า นอกจากนี้ยังลดความจำเป็นในการรักษาผู้ป่วยด้วยการเร่งการขจัดยาออกด้วยการทำ hemodialysis หรือการดูแลผู้ป่วยในห้องไอซียู ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการ รักษาถึงแม้ว่าราคาของยา fomepizole จะแพงกว่า ethanol ก็ตาม
|
|