Bulletin (April - June 2000 Vol.8 No.2)
อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (Adverse drug reaction; ADR) เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการใช้ยาบำบัดรักษาโรค หรือความผิดปกติของผู้ป่วย มีรายงานต่างๆมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของปัญหา ADR ต่อผู้ป่วย ต่อบุคลากรสาธารณสุข รวมถึงผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจาก ADR 1 นอกจากนี้ในแง่การติดตามการใช้ยาหลังจากยาที่มีการรับรองโดยคณะกรรมการ อาหารและยา โดยเฉพาะยาใหม่ซึ่งมีข้อจำกัดในการศึกษาวิจัยทางคลินิก ทำให้ขาดความรู้เรื่องกลไก ความถี่ และปัจจัยเสี่ยงของการเกิด ADR จึงจำเป็นต้องมีระบบในการติดตาม ADR ภายหลังยาออกจำหน่ายในท้องตลาด 2, 3 ADR ตามคำจำกัดความขององค์การอนามัยโลก หมายถึง การตอบสนองใดๆ ต่อยาเมื่อใช้ในขนาดปกติ เพื่อการป้องกัน วินิจฉัย หรือบำบัดรักษา ซึ่งเกิดขึ้นโดยมิได้ตั้งใจและเป็นอันตราย แต่ไม่รวมถึงความล้มเหลวจากการใช้ยาตามวัตถุประสงค์ 1 สามารถแบ่ง ADR ได้หลายแบบตามเกณฑ์ที่ใช้ เช่น การแบ่งตามฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา 4 โดย Type A เป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่อธิบายได้จากฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ส่วน Type B เป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่ไม่สามารถอธิบายได้จากฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา แต่มีผู้แย้งว่าการแบ่งแบบนี้อาจไม่ครอบคลุม ADR ทั้งหมด จึงมีการแบ่งตามการคาดการณ์ซึ่งมีรายละเอียดในจุลสารพิษวิทยา5 ในการระบุปัญหา ADR หรือการวินิจฉัยว่าผู้ป่วยเกิด ADR หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก หากเป็นปฏิกริยาที่คาดการณ์ได้จากฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหรือจากการมีประสบการณ์ในอาการไม่พึงประสงค์ ก็พอจะอธิบายผลของปฏิกริยาดังกล่าวได้ แต่หาก ADR นั้นเป็นชนิดที่คาดการณ์ไม่ได้ ก็จะมีความยุ่งยากในการตัดสินว่า
ผลไม่พึงประสงค์นั้นเกิดจากยาหรือไม่ การวินิจฉัย ADR จะเรียกได้ว่าเป็นการประเมินความสัมพันธ์ของยาที่สงสัย (suspected drug) กับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (adverse event) ซึ่งก็คือ causality assessment นั่นเอง ซึ่งสามารถสรุปได้ตาม รูปที่ 1
เหตุการณ์ไม่พึง ประสงค์ (Adverse event) วินิจฉัยทางคลินิก |
------> |
เหตุการณ์ไม่พึง ประสงค์จากยา (Adverse drug event ) การวินิจฉัยแยกโรค โดยพิจารณาว่าเกิดจากยาหรือไม่ |
--------> |
อาการไม่พึงประสงค์ จากการใช้ยา (ADR) การยืนยันโดยวิธีต่างๆ |
- วิธีไบเอเชียน (Bayesian approach) เป็นวิธีหาความน่าจะเป็น ของความเกี่ยวข้องระหว่างยาที่สงสัยและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ โดยอาศัยหลักการที่ใช้ความรู้ หรือข้อมูลที่มีอยู่เดิม รวมกับข้อมูลที่เพิ่มขึ้น แล้วคำนวณตามหลักทฤษฎีความน่าจะเป็นข้อมูลที่จะนำมาคำนวณหาความน่าจะเป็นมาจาก 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ข้อมูลของผู้ป่วย (clinical data) และข้อมูลของยาในแง่เภสัชวิทยาคลินิกและระบาดวิทยา วิธีนี้มีความละเอียดและยืดหยุ่นตามสาเหตุของการเกิด ADR แต่ละชนิด ใช้กับยาหลายชนิดและสามารถใช้ซ้ำได้ (reproducible) 14 แต่วิธีดังกล่าวนี้จะมีความซับซ้อนและยุ่งยากมาก ต้องใช้เวลานานในการประเมิน
- สำหรับใน ตารางที่ 1 เป็นขั้นตอนการนำไปสู่การวินิจฉัย ADR โดยยกตัวอย่างผู้ป่วยที่ได้รับยา co-trimoxazole แล้วเกิดมีผื่นชนิด erythema multiforme 7 ขั้นตอนดังกล่าวยังรวมถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหา ADR และการรายงาน ADR เพื่อรวบรวมข้อมูลปัญหาของ ADR
- ในการวินิจฉัย ADR นั้น บ่อยครั้งที่ไม่สามารถให้คำตอบได้อย่างแน่นอนว่าเป็นอาการไม่พึงประสงค์ทีเกิดขึ้นจากยา เนื่องมาจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ ความไม่สมบูรณ์ของข้อมูลของผู้ป่วย การที่ผู้ป่วยได้รับยาหลายชนิด การไม่สามารถแยกโรคหรือภาวะที่ผู้ป่วยเป็นอยู่ รวมถึงความรู้ที่ไม่สมบูรณ์เกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์ ชนิดที่คาดการณ์ไม่ได้เกี่ยวกับความถี่, กลไกการเกิด, ปัจจัยเสี่ยง และที่สำคัญคือ ไม่สามารถให้ยากลับซ้ำกับผู้ป่วย (re-challenge) เนื่องจากปัญหาทางด้านจริยธรรม 3
-
นับตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา ได้มีรายงานต่างๆที่พยายามจะกำหนดเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ หรือเครื่องมือในการประเมินความสัมพันธ์ของยาที่สงสัยกับอาการไม่พึงประสงค์มากมายหลายวิธีด้วยกัน โดยอาจจะสรุปวิธีการในการวินิจฉัยเป็น 3 กลุ่มใหญ่ได้ดังนี้ คือ 8
- การตัดสินใจทางคลินิก (clinical judgement หรือ global introspection) เป็นวิธีที่ไม่ได้มีการกำหนดเกณฑ์ใดๆที่แน่นอน ขึ้นกับประสบการณ์และความรู้ของผู้ที่ดูแลผู้ป่วยขณะนั้นๆ
- ออกอริทึม (algorithm) อาจจะมีลักษณะของแผนภูมิ หรือตาราง หรือการตอบคำถามต่างๆที่กำหนดขึ้นเป็นข้อๆแล้วให้คะแนนตามที่กำหนดไว้ ออกอริทึมที่มีรายงานและมีการนำไปใช้นั้นมีด้วยกันมากมาย คือ
- ก. กลุ่มของแผนภูมิ หรือตาราง หรือคำถามที่ไม่ได้กำหนด คะแนน ได้แก่ Karch & Lasagna 9, Jones’s algorithm 10
- ข. กลุ่มที่เป็นคำถามไว้สำหรับการรวบรวมคะแนน (Scoring) ได้แก่ Krammer’s algorithm 11, Naranjo’s algorithm 12, Roussel Ullaf Causality Assessment (RUCAM) 13
- ออกอริทึมที่มีผลรวมเป็นคะแนนซึ่งเป็นที่นิยม สะดวก และง่าย 10 คือ Naranjo’s algorithm ซึ่งจะตั้งคำถามเกี่ยวกับข้อมูลผู้ป่วย และเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ 10 ข้อ ตาม ตารางที่ 2
- ซึ่งออกอริทึมต่างๆเหล่านี้จะต้องมีการทดสอบในเรื่องของความสามารถในการทำซ้ำแล้วได้ผลเหมือนเดิม (reproducible) และความถูกต้อง (validity)14 ปัญหาสำคัญของ causality assessment ส่วนมากแล้วจะไม่สามารถให้คำตอบที่เชื่อมั่นได้ 100% เนื่องจากปัญหาในการวินิจฉัย ADR มักจะไม่มีการพิสูจน์ให้แน่ชัด หรืออาจกล่าวได้ว่าไม่มี “gold standard” จากปัญหาหลายประการตามที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากนี้ออกอริทึมเกือบทั้งหมดจะเป็นออกอริทึมที่นำมาใช้กับยาทุกชนิดและอาการไม่พึงประสงค์ทุกชนิด ซึ่งทำให้ขาดความยืดหยุ่น คำตอบที่ระบุจะเป็นใช่หรือไม่ใช่ ซึ่งในทางปฏิบัติอาจไม่สามารถตอบได้ชัดเจน 3 จึงได้มีความพยายามที่จะปรับให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น มีการกำหนดค่าคะแนนที่แตกต่างเพิ่มขึ้น และวินิจฉัย ADR ตามสาเหตุ (etiological diagnosis) 7,13โดยจะพบตัวอย่างคือ การนำเอา RUCAM มาประยุกต์ใช้ในการวินิจฉัยของยาต่อการเกิด acute liver injury ตาม รูปที่ 2 ซึ่งจะแบ่ง acute liver failure เป็น 2 แบบ และมีการกำหนดน้ำหนักปรับความยืดหยุ่นของเกณฑ์แต่ละข้อ ตามลักษณะการเกิด acute liver injury
-
ในฉบับต่อไปจะนำเสนอกรณีผู้ป่วยและการนำเอา causality assessment แต่ละวิธีมาใช้
-
เอกสารประกอบการเรียบเรียง
- Gharaibeh MN, Greenberg HE and Waldman SA. Adverse drug reaction: a review. Drug inf J 1998;32:323-38.
- Johnson J, Tanner A. Postmarketing surveillance: curriculum for the clinical pharmacologist. Part I: postmarketing surveillance within the continuum of the drug approval process. J Clin Pharmacol 1993;33:904-11.
- Meyboom RHB, Hekster YA, Egberts ACG, et al. Causal or casual? Drug Safety 1997;17:374-89.
- Stephens MBD in Stephen MBD. Detection of new adverse drug reactions. 3 rd ed. London: Macmillan publishers Ltd.; 1993. p. 15.
- ปราโมทย์ ตระกูลเพียรกิจ. บทบาทของ Reaction drug metabolites ต่อการเกิด ADR. Poison & Drug Information Bulletin 1996;6(3):7-8.
- Narnajo CA, Shear NH and Lanctot KL. Advances in the diagnosis of adverse drug reaction. J Clin Pharmacol 1992; 32:897-904.
- Lanctot KL, Naranjo CA. Comparison of the Bayesian approach and simple algorithm for assessment of adverse
- Karch FE, Lasagna. Toward the operation identification of adverse drug reactions. Clin Pharmacol Ther 1977;21: 247-54.
- Michel DJ, Knodel LC. Comparison of three algorithms used to evaluate adverse drug reaction. Am J Hosp Pharm 1986;43:1703-14.
- Krammer MS, Leventhal JM, Hutchinson TA et al. An algorithm for the operational assessment of adverse drug reactions. JAMA 1979;242:623-32.
- Naranjo’s CA. Busto U, Sellers EM, et al. A method for estimating the probability of adverse drug reactions. Clin Pharmacol Ther 1981;30:239-45.
- Benichou C. Adverse drug reactions a practical guide to diagnosis and management. Chichester:Jonh Wiley & Sons;
- Hutchinson TA, Lane DA. Assessing methods for causality assessment of suspected adverse drug reactions. J Clin Pharmcol 1989;42:5-16.