ทริป 2 รามาอาวุโสสัญจร ’ 53

 
Tips 2 รามาอาวุโสสัญจร ’ 53
**************************

เยือนถิ่น “สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย
ทัวร์ไพรท่องธรรมชาติปลอดสารพิษ
 *************************** 
 
          วันนั้น...
          ท่ามกลางความ “วุ่นวาย - ยุ่งเหยิง” ของเมืองกรุง ฯ  ที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างใจจดใจจ่ออยู่กับการรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์ “บ้านเมือง” ปรากฏการณ์ซ้ำเดิมของ “ความแตกแยก” ระหว่างผู้คนในสังคมไทยที่มีสลับช่วงสลับสมัยมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี 
 
          แต่ความขัดแย้งน่าเบื่อใน “การเมืองน้ำเน่า”  ที่เกิดขึ้นในจอตู้   ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำคัญที่สกัดกั้น ความตั้งใจ และความมุ่งมั่นต่อการสร้างสัมพันธ์ภาพอันดีระหว่างกัน ของเหล่า “สมาชิกชมรมรามาอาวุโส” ที่วันนั้นต่างพร้อมใจโบกมือลาความวุ่นวาย ออกเดินทางสู่ “อำเภอวังน้ำเขียว” เมืองธรรมชาติไร้สารพิษ “สวิสเซอร์แลนด์ เมืองไทย” 


 

           "...วังน้ำเขียว  เมืองหนาว  ภูเขามากมาย  น้ำตกหลากหลาย  ผลไม้นานาพันธุ์  แดนสวรรค์เมืองหมอก..."

           จุดสตาร์ทล้อหมุนเริ่มที่ “โรงพยาบาลรามาธิบดี” รถบัสคันโตเกือบ 50 ที่นั่ง ขับเคลื่อนพาเหล่าสมาชิกหญิง – ชาย เกือบ 30 ชีวิต มุ่งตรงแหวกอากาศยามเช้าออกสู่ชานเมืองตามเส้นทางสายหลัก 304 ยอดฮิต “กรุงเทพฯ – ปราจีนบุรี – เขาใหญ่” 
 

            โดยมีปลายทางของทริป  “รามาอาวุโสสัญจร’ 53 ครั้งที่ 2 ”  อยู่ที่โฮมสเตย์ท่ามกลางขุนเขาแห่งธรรมชาติ หมู่บ้านไทยสามัคคี    ตลอดเส้นทางของการเดินทางสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ของลูกทัวร์ที่อายุอานามตัวเลขรวมกันกว่า 4 หลัก คือ เสียงเพลงย้อนยุคที่เอื้อนทำนองเสนาะแบบ “ไทยเดิม” ยากเกินกว่าวัยรุ่นฮิปฮอปจะฟังและรับได้ 
 
             “คาราโอเกะ” บวก “วั้มแปะ-แวะปั๊ม” ถูกสลับตัดฉากเป็นช่วง ๆ เกือบ 2 ชั่วโมงของการเดินทาง  ก่อนคณะ ฯ จะถึงจุดหมายแรก ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร แหล่งเที่ยวสำคัญขึ้นชื่อของจังหวัดปราจีนบุรี 

              คณะ ฯ ถูกแบ่งออกเป็น 2 กรุ๊ปใหญ่ พวกหนึ่งเข้าชมพิพิธภัณฑ์สมุนไพรอภัยภูเบศร อีกพวกหนึ่งเลือกทำกิจกรรมแพทย์แผนไทย อาทิ นวดเท้า นวดตัว ช็อปปิ้งสมุนไพร สิ่งที่ได้ในจุดเที่ยวแห่งนี้ นอกจากเหนือความสบายสไตล์สปาไทย ๆ แล้ว ความรู้อิงประวัติศาสตร์ของสมุนไพรไทย ทุกคนต่างเก็บเกี่ยวเลือกจำกันไปไม่มากก็น้อยกันทุกคน 
 
              จากนั้นคณะ ฯ ได้เดินทางต่อสู่วัดชื่อดังรอบตัวเมืองปราจีนบุรี เพื่อขอพรสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมหยุดรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวสมุนไพรขึ้นชื่อจนอิ่มหน่ำสำราญกันถ้วนทั่ว    
  
              การเดินทางสู่วังน้ำเขียวจึงเริ่มต้นอีกครั้งในเพลาต่อมา จวบจนเวลาบ่ายคล้อยล่วงเลยเฉียดใกล้เวลาเย็น  รถบัสคันเดิมขนชาวคณะ ฯ   เดินทางสู่หมู่บ้านไทยสามัคคี เพียงไม่นานจากถนนใหญ่ เขตรั้วที่ภายในเต็มไปด้วยสวนดอกไม้หลากสีของ  “ฟ้าวารีโฮมสเตย์” ก็ปรากฏโฉมขึ้นให้ได้เห็น   ซึ่งเป็นที่หมายปลายทางสำหรับเอนกาย “พักผ่อน” ในค่ำคืนแรกของการท่องเที่ยวทริปนี้

               อาหารสมุนไพรสุดอร่อย - ลองลิ้มชิมรสเมนูเห็ดหลากชนิด - ขับกล่อมเสียงคาราโอเกะโดนใจ - อิงแอบแนบธรรมชาติกลางไพรสวนดอกไม้ - สดชื่นเต็มปอดกับความเย็นกลางขุนเขา เหล่านี้เป็นกิจกรรมยามค่ำคืนของชาวคณะ ฯ   ก่อนที่ความมืดสงัดกลางแสงดาวกระพริบ สายลมเย็นพัดหวิว ๆ จับขั้วหัวใจจะมาแยกย้ายทุกคนกลับที่พัก   เพื่อปิดฉากการเดินทางของวันแรก

                หกโมงเช้าที่อากาศแสนเย็นสบาย ทุกชีวิตทยอยตื่นขึ้นเพื่อเลือกชมความงามยามเช้าของ “วังน้ำเขียว” หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จสรรพพร้อมเก็บสัมภาระขึ้นรถ “ผาเก็บตะวัน” อุทยานแห่งชาติทับลาน คือ จุดเที่ยวจุดแรกของโปรแกรมทัวร์วันที่ 2 ก็เริ่มขึ้น 

                บนความสูงของจุดชมวิวแห่งนี้ “ทะเลหมอก” คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หมายปองจะได้เห็น (แต่คณะ ฯ ไม่ได้เห็น) แต่กิจกรรมอื่น ๆ ก็ทำให้ลูกทัวร์ต่างเพลิดเพลินมีความสุขสมใจถ้วนหน้า 
 
                เมื่อลงสู่เบื้องล่างชาวคณะ ฯ ได้เข้าเยี่ยมชมแหล่งเพาะเห็ดที่เรื่องชื่อ และสวนเบญจมาศสวยงามของวังน้ำเขียว   ทำเอาหลายคนหมดเงินไปกับการช็อปปิ้งของฝันของฝากกลับบ้านตัวปลิวจำนวนไม่น้อย 

                ก้าวล่วงสู่เวลาบ่ายของโปรแกรมทัวร์ 2 วัน 1 คืน ทริปนี้ ทุกคนยังไม่คลายความสนุก แต่งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา (โบราณว่างไว้อย่างนั้น)   ทุกคนเลยจำใจมอบหน้าที่ท้ายสุดให้โชว์เฟอร์มือดีของรามา ฯ เพื่อนำพาทุกชีวิตมุ่งตรงกลับสู่ความวุ่นวายของเมืองกรุง  ความวุ่นวายที่เหล่าสมาชิกรามาอาวุโสต่าง “ลืมไปชั่วขณะ” เพราะความสุขท่ามกลางขุนเขา และสายลมของวังน้ำเขียว“พื้นที่หลากสี” ของหมู่มวลดอกไม้ สีสันที่อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว  โดย “ไม่แตกแยก” 

                17.00 น. เดินทางกลับถึงกรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดี่ยวกับการประจันหน้าเจรจากันระหว่าง “เสื้อแดง” กับ “เสื้อรัฐ”  สองฝ่ายหัวดื้อที่วันนี้ยังไม่ลงเอยกันได้อย่างมีสวัสดิภาพ 
 
                เจอกันใหม่ทริปหน้านะเหล่าสมาชิกรามาอาวุโส....   
        
****************************