เกษียณต้องเกษม...

เกษียณต้องเกษม...

ของแถมที่รามาไม่อยากให้ไป

                ย่างก้าวเข้าสู่ “เดือนกันยายน” ของทุกปี ถือเป็นช่วงเวลาธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เรื่องธรรมดาที่ว่า คือ เป็นเดือน 8 ฝนชุกและที่มักชอบตกเวลาก่อนเข้าและหลังเลิกงาน  เป็นเดือนที่ไร้วันหยุดหลายคนไม่ชอบใจเสมอมา  และเป็นเดือนปิดงบประมาณประจำปีที่หลายหน่วยงานจำต้องหงุดหงิดเพราะงานติด-เงินขัดชั่วขณะ 

ส่วนเรื่องไม่ธรรมดานั้น ถือเป็นช่วงเวลา “จากลา” ของใครหลายคนที่คุ้นชินกับวิถีชีวิตแบบการทำงานประจำ “มนุษย์เงินเดือน” จุดสิ้นสุดปลายทางราชการที่หลากอารมณ์กันไป   บ้างดีใจเพราะจะได้อยู่ดูแลลูกหลานเสียที บ้างจิตใจหดหู่เพราะนับจากนี้จะกลายเป็นพลเมืองอีกคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า...คนว่างงาน...หมดสิทธิ์กระเสือกกระสนฝ่าฟันวิกฤติรถติดบนท้องถนนเพื่อมาให้ทันเวลาเข้างาน 

หลายคนสงสัย   ไหว้ครูมาซะยืดยาวหลายบรรทัด , ต้องการจะบอกอะไร ?

เรื่องมีอยู่ว่า , หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ ในฐานะผู้คอยขับเคลื่อนดูแลการสร้างเสริมสุขภาพให้กับบุคลากร ผู้ป่วยและญาติ ผู้คนในชุมชนเมืองทั่วไป ตามพันธกิจหลักและนโยบายสร้างเสริมสุขภาพของคณะ แพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้จัดให้มีการตรวจเช็คสุขภาพให้กับบุคลากร “ผู้เกษียณอายุราชการ” ประจำปี 53 และดำเนินการเช่นนี้มาแล้ว 3 ครั้ง  ,โดยในปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 4 พบว่า

จากสถิติการบันทึกข้อมูลเบื้องต้น ผลการตรวจสุขภาพของเหล่าผู้เกษียณ  ฯ จำนวน 38 ราย แสดงผลถึงปัญหายอดฮิต 5 อันดับท็อปไฟว์ประจำปีนี้ คือ โรคไขมันในเลือดสูง  โรคกระดูกพรุน  โรคความดันโลหิตสูง  ซีด - เข่าเสื่อม    และโรคจำพวกโรคอ้วน-เบาหวาน-ไทรอยด์-ปอด วิ่งรั้งท้ายเกาะกลุ่มตามกันมาแบบติด ๆ   ที่สำคัญไม่มีสักคนหนึ่งที่ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ

ค่า “เปอร์เซ็นต์ศูนย์” ของผู้ไม่มีปัญหาสุขภาพในกลุ่มนี้เอง    (ถึงแม้ว่าจะไม่ครบถ้วนตามจำนวนตัวเลขทั้งหมดของผู้เกษียณ ฯ) คือสิ่งที่น่าตกใจจนต้องหยิบยกขึ้นมาเอื้อนเอยกันว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ?

ทั้งที่ภายในองค์กร มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ (ร่างกาย-จิตวิญญาณ) แบบครบวงจรมากมาย อาทิ ศูนย์กีฬาและชมรมสุขภาพมากกว่า 20 กลุ่มชนิดกีฬาไว้คอยบริการ มีศูนย์เสริมพลังสร้างสุขภาพที่คอยเติมเต็มความรู้เรื่องสุขภาพหลากรสหลายรูปแบบ  มีบริการตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี    

หรือเหตุผลแท้จริงนั้นจะเป็นเพียงเพราะ “พฤติกรรมส่วนตัว” กับความไม่ใส่ใจในสุขภาพส่วนตนใช่หรือไม่   ที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ค่าตัวเลขเชิงลบให้ออกมาเช่นนี้ ?  , สมมุติฐานที่หลายคนสงสัย

กูรูผู้รู้บางท่านแสดงทัศนะและเชื่อมั่นว่า สาเหตุหลักน่าจะอยู่ที่การไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองเท่าที่ควรมีส่วนทำให้บุคลากรนั้น ๆ มีสุขภาพไม่ดี  เรื่องภาระงานมิใช่องค์ประกอบที่ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมลง ฉะนั้นการออกกำลังกายและพัฒนาจิตใจจะช่วยเสริมพลังชีวิตให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นได้ในอนาคต

เมื่อเป็นเช่นนั้น , เรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดาที่เกิดขึ้นใน “ฤดูกาลจากลา” ประจำปีของผู้เกษียณ ฯ นี้ น่าจะเป็นตัวอย่างสะกิดใจชั้นเยี่ยมให้กับบุคลากรเพื่อนพ้องน้องพี่รุ่นหลัง ๆ  ให้ตระหนักและหันมาใส่ใจสุขภาพตนเองให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ 

เพราะเราไม่อยากเห็น “จุดสิ้นสุด” ดี ๆ ของการทำงาน  มีผลลัพธ์เทียบเท่ากับ “การเริ่มต้น” ใหม่ของการรักษาตัว 

รวมทั้งไม่อยากเอยคำว่า “หายไว ๆ นะ” แทนคำพูดที่ว่า “สวัสดีโชคดีมีสุข” ให้กับผู้เกษียณอายุทุกท่านเมื่อเขาจะห่างจากเราไป

 

"สุขภาพดีอยู่ที่ตัวคุณ  ออกกำลังกาย
ทุกวันเพื่อเสริมพลังชีวิตให้สดใสแข็งแรง"
 

 

 

ด้วยจิตคารวะและเคารพยิ่ง : หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ