Calcium disodium adetate (CaEDTA)
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
Calcium EDTA ออกฤทธิ์โดยการจับกับธาตุโลหะที่มีประจุ เช่น ตะกั่ว, zinc, cadmium, manganese, เหล็ก และ copper แต่จะจับได้ดีที่สุดกับตะกั่ว โดยดึงมาจากตะกั่วที่สะสมอยู่ในกระดูก และถูกขับออกทางไต
ข้อบ่งใช้
-
ใช้รักษาภาวะเป็นพิษจากตะกั่ว ทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง ถ้ามีอาการทางสมอง (encephalopathy) หรือภาวะ ไตวาย ควรให้ BAL (Dimercaprol) ร่วมด้วย
-
ใช้รักษาภาวะเป็นพิษจาก manganese, zinc, chromium, nickel
ข้อห้ามใช้
-
ปัสสาวะไม่ออก (anuria) หรือมีอาการผิดปกติของการ ทำงานของไตเพราะจะทำให้ CaEDTA มีการสะสม และเกิดเป็นพิษต่อไต
-
ยังไม่มีการศึกษาในคนตั้งครรภ์
อาการไม่พึงประสงค์
-
เกิดพิษต่อไต ป้องกันการเกิดพิษได้โดยต้องให้น้ำเพื่อให้ มีปัสสาวะอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงการให้ยาในขนาดสูง ถ้าให้การรักษาอย่างน้อย 2 วันถึง 2 สัปดาห์ ควรตรวจการทำงานของไต ระหว่างให้การรักษาเป็นระยะ สารประกอบระหว่าง CaEDTA กับตะกั่วสามารถถูกกำจัดได้ด้วยการทำ hemodialysis กรณีที่ไตไม่ทำงาน
-
ควรหลีกเลี่ยงการให้ทางเส้นเลือดดำแบบเร็วๆ ในภาวะของ lead encephalopathy เพราะจะเพิ่มความดันใน CSF และ ทำให้อาการทางสมองเลวลง
-
คลื่นไส้ อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ไข้ หนาวสั่น ความดันโลหิตต่ำ และมีการหลั่ง histamine
-
ปวดบริเวณที่ฉีดเข้ากล้าม หรือเกิดเส้นเลือดดำอักเสบ ถ้าฉีดเข้าเส้นโดยเฉพาะถ้าความเข้มข้นสูงกว่า 0.5%
-
เกิดการสูญเสีย zinc จากร่างกาย เกิดภาวะพร่องของ zinc
-
มีโอกาสเกิดภาวะ calcium สูง แต่พบได้น้อย
ปฏิกิริยาต่อยาอื่น
ยังไม่พบ
ขนาดและวิธีใช้
-
ภาวะตะกั่วเป็นพิษ (ทั้งเด็กและผู้ใหญ่)
-
ระดับตะกั่วในเลือดมากกว่า 100 mcg/dl และมี lead encephalopathy ให้ CaEDTA 1,500 mg/m2/day (ประมาณ 30 mg/kg) แบ่งให้ 6 ครั้ง ทุก 4 ชั่วโมง ฉีดเข้ากล้ามลึกๆ หรือให้ทางเส้นเลือดดำช้าๆ โดยทำให้เจือจาง 2-4 mg/dl ในน้ำเกลือเป็นเวลา 5 วัน ผู้ป่วยที่มีภาวะ encephalopathy ต้องให้ BAL ร่วมด้วย
-
มีอาการของภาวะตะกั่วเป็นพิษ แต่ไม่มี encephalopathy และระดับตะกั่วในเลือด 50-100 mcg/dl ให้ CaEDTA 1000 mg/m2/day (ประมาณ 20 mg/kg) ทางเส้นเลือดดำหรือฉีดเข้ากล้าม แบ่งให้ทุก 4 ชั่วโมงเป็นเวลา 5 วัน
-
วัดระดับตะกั่วในเลือดเมื่อครบกำหนดให้ยา เพื่อประเมินว่าต้องให้ CaEDTA ต่อหรือไม่
-
CaEDTA chelating test หรือ Lead mobilization test เป็นการประเมินการสะสมของตะกั่วในส่วนที่แลกเปลี่ยนได้ของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระดูก ขนาดที่ให้ 500 mg/m2 (ประมาณ 20 mg/kg) แต่ไม่เกิน 1 กรัมทางเส้นเลือดดำ drip ใน 1 ชั่วโมง หรือเข้ากล้าม วัดปริมาณตะกั่วที่ขับออกทางปัสสาวะใน 24 ชั่วโมงก่อนและหลังให้ยา ปัสสาวะที่เก็บต้องใช้ภาชนะที่ผ่านการล้างด้วยกรด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของสารที่จะทำให้การวัดค่าตะกั่วผิดไป ถ้าสัดส่วนปริมาณตะกั่ว (mcg) ถูกขับออกมาในปัสสาวะต่อปริมาณ EDTA (mg) ที่ให้เข้าไปมากกว่า 0.7 ถือว่าทดสอบให้ผลบวก
รูปแบบของยา
Calcium disodium versenateÒ 200 mg/ml (5 ml/ampule) สารละลายสำหรับฉีด