คุณชมพูถามเรื่องมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

 

g5.jpg

endometrium.jpg

คุณชมพู : คุณหมอคะ เยื่อบุโพรงมดลูกคือ เยื่อที่หลุดลอกมาตอนเรามีเมนส์แต่ละเดือนใช่ไหมคะ

คุณหมอ : ใช่แล้วค่ะ คุณชมพู

คุณชมพู : แล้วเราจะสังเกตได้ยังไงคะว่าเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

คุณหมอ : สังเกตจากการมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดที่ไม่ใช่ระดูปกติ ระดูปกติจะมาเป็นรอบๆ ครั้งละไม่เกิน 7 วัน ปริมาณไม่มากนัก ไม่มีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบ ถ้าผิดไปจากนี้ได้แก่ ระดูมาเกิน 7 วัน ตกเลือดหรือมีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบ ต้องมาพบแพทย์ เท่าที่หมอเจอช่วงที่ผู้หญิงจะละเลยเลือดออกผิดปกติมากที่สุดคือ ช่วงใกล้วัยหมดระดูหรือวัยทอง โดยเมื่อมีเลือดออกผิดปกติก็ไปเข้าใจผิดว่าเป็น “เลือดจะไปลมจะมา” แล้วปล่อยทิ้งไว้ มาพบแพทย์ช้า คุณชมพูสังเกตระดูช่วงใกล้วัยทองที่ปกติได้นะคะ ว่าจะมีแค่ 2 แบบเท่านั้น คือ แบบแรก ระดูมาเป็นรอบๆ เหมือนปกติ แล้วหยุดหายไป ถ้าหายไปเกิน 12 เดือนก็แสดงว่าเป็นวัยทอง แบบที่สองคือ ระดูห่างออก น้อยลง และค่อยๆ หมดไป เหมือนกันกับแบบแรกคือ ถ้าหายไปเกิน 12 เดือนก็เป็นวัยทอง ถ้าเบี่ยงเบนไปจากนี้ก็ผิดปกติ และเมื่อเป็นวัยทองแล้วต้องไม่มีเลือดออกทางช่องคลอดอีก ถ้ามีเลือดออกทางช่องคลอดในวัยทองเป็นอาการที่ผิดปกติ

คุณชมพู : แล้วถ้ามีเลือดออกผิดปกติ คุณหมอจะทำยังไงต่อไปคะ

คุณหมอ : หมอต้องซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจภายใน อาจพิจารณาทำอัลตร้าซาวน์อย่างละเอียด ถ้าไม่เจอสาเหตุอื่นต้องทำการขูดเอาเยื่อบุโพรงมดลูกมาส่งตรวจชิ้นเนื้อก็จะได้การวินิจฉัยค่ะ โชคดีที่ส่วนใหญ่ของโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ผู้ป่วยจะมาพบแพทย์เร็วเพราะสังเกตได้ว่ามีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด จึงวินิจฉัยได้ในระยะต้นเสียเป็นส่วนมาก ต่างจากมะเร็งรังไข่ที่ไม่มีอาการแบบนี้

คุณชมพู : ถ้าอย่างนั้นผลการรักษาของโรคนี้ก็ดีกว่ามะเร็งรังไข่ซิคะ

คุณหมอ : ค่ะ ก็ดีกว่าเนื่องจากส่วนใหญ่วินิจฉัยได้เมื่อโรคเป็นไม่มาก

คุณชมพู : แล้วโรคนี้รักษายังไงคะ

คุณหมอ : เบื้องต้นหลังจากได้การวินิจฉัยจากผลชิ้นเนื้อของเยื่อบุโพรงมดลูกแล้ว ก็ทำการผ่าตัด ล้างน้ำในช่องท้องมาตรวจ ตัดมดลูกและปีกมดลูก รวมทั้งเนื้อเยื่อไขมันในท้องและต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง เพื่อจัดแบ่งระยะของโรค แล้วพิจารณาว่าต้องให้หรือไม่ให้การรักษาอื่นได้แก่ การฉายแสง ใส่แร่ หรือยาเคมีบำบัดต่อค่ะ

คุณชมพู : ปัจจัยเสี่ยงของโรคนี้ มีอะไรบ้าง และเราจะป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้หรือไม่

คุณหมอ : ปัจจัยเสี่ยงได้แก่ อ้วนเกินไป (น้ำหนักเป็นกิโลกรัม หารด้วย ส่วนสูงเป็นยกกำลังสองได้ผลมากกว่า 25) เป็นโรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง ได้รับยาฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน หรือระดูนานๆ มาที คุณชมพูจะเห็นได้ว่า มีบางปัจจัยที่ป้องกันได้ บางปัจจัยป้องกันไม่ได้ ในส่วนที่ป้องกันได้คือ ระวังอย่าให้อ้วนเกินไป ไม่รับยาฮอร์โมนเพศหญิงโดยไม่จำเป็นหรือไม่อยู่ในความดูแลของแพทย์ อันนี้หมายรวมถึงการได้สมุนไพร ยาไทย ยาจีนที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิง (พวกกวาวเครือ หรือตัวกุย ฯลฯ) ด้วยค่ะ อีกอย่างคือ ถ้าอายุยังไม่ถึงวัยทองแล้วระดูหายไปนานเกิน 3 เดือน ถ้าเป็นซ้ำๆ บ่อยๆ เยื่อบุโพรงมดลูกจะหนาผิดปกติ และกลายเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกในอนาคตได้ค่ะ

คุณชมพู : ขอบคุณค่ะ คุณหมอ ดิฉันจะเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คุณแม่ฟัง เพราะท่านอยู่ในช่วงกำลังจะเข้าวัยทองพอดีล่ะค่ะ ตอนนี้ก็มีอาการวูบวาบ เหงื่อออกบ่อยๆ

คุณหมอ : ดีมากค่ะ คุณชมพู

 

รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงสฤกพรรณ วิไลลักษณ์
หน่วยมะเร็งวิทยานรีเวช
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี