คุณ ปณดี แกล้วทนง (อุ่นเรือน)

สรุปจาก Oral History ของ คุณ ปณดี แกล้วทนง (อุ่นเรือน)

 

กล่าวแนะนำ และ การเข้ามาทำงานที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

                            ใน พ.ศ. 2508 ซึ่งเป็นปีแรกของการเริ่มก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อารี วัลยะเสวี จึงต้องการเลขานุการมาช่วยงาน โดยทำหนังสือไปที่วิทยาลัยบพิธภิมุข ทางวิทยาลัยได้ส่งรายชื่อผู้เรียนทั้งหมดรวมถึงผู้ที่จบปริญญาตรีเพื่อรับการสัมภาษณ์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อารีเป็นผู้สัมภาษณ์เองและเลือกเอง ช่วงนั้นท่านเป็นหัวหน้าวิจัยของ SEATO Lab มีสำนักงานที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตึกสูติกรรม และใช้สำนักงานนี้เป็นสำนักงานชั่วคราวของคณะฯ

                            ในพ.ศ. 2508 เป็นช่วงเวลาที่คุณอุ่นเรือน แกล้วทนง (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ปณดี แกล้วทนง)เรียนจบเลขานุการ จากวิทยาลัยบพิธพิมุข และเข้ารับการสัมภาษณ์ด้วย ในที่สุดได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานเป็นข้าราชการของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ปฏิบัติงานด้านเลขานุการ งานพิมพ์ งานเชาวเลข จดรายงานการประชุม รวมถึงการประสานงานการก่อสร้างคณะฯ โดยมี คุณเจน สกุลธนารักษ์เป็นสถาปนิก ตลอดเวลาที่ทำงานคุณอุ่นเรือนได้ใกล้ชิดกับศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อารี วัลยะเสวี มาตลอดซึ่งท่านให้เกียรติคุณอุ่นเรือนมาก ให้ใช้รถประจำตำแหน่งของท่านไปติดต่องานเสมอ พร้อมทั้งให้กำลังใจในการทำงานที่ยากๆ เช่น การติดต่อกับชาวต่างประเทศ รวมถึงส่งไปเพิ่มพูนความรู้ด้านเอกสาร และระบบราชการของมหาวิทยาลัยมหิดล อาจารย์เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านการทำงานที่ตรงเวลาและความขยันในการทำงานโดยเริ่มปฏิบัติงานแต่เช้าให้เห็นเป็นแบบอย่าง คุณอุ่นเรีอนทำงานอย่างมีความสุขตลอดมา ผู้บังคับบัญชามีความเมตตาให้เกียรติ เพื่อนร่วมงานดี แต่ต้องเกษียณก่อนอายุราชการ 1 ปี เพื่อไปต่างประเทศ คุณอุ่นเรีอน แกล้วทนง ปฏิบัติงาน ที่ คณะฯ เป็นเวลานานมากเกือบ 40 ปี

 

ความโดดเด่นของรามาธิบดีในยุคนั้น

                           เมื่อคุณอุ่นเรือน แกล้วทนง ได้ปฏิบัติงานที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมีความภูมิใจมาก ที่คณะฯ เป็นคณะแพทย์ที่มีชื่อเสียง มีผู้ก่อตั้งและผู้บริหารที่เป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงมากของประเทศไทย จนเป็นที่กล่าวขวัญถึงความทันสมัยของคณะฯ ในด้านการรักษาว่า ถ้าเผาศพต้องเอาไปที่วัดธาตุทอง ถ้าป่วยก็ต้องไปโรงพยาบาลรามาธิบดี และแต่งงานก็ต้องแต่งงานที่โรงแรมดุสิตธานี คณะฯ เป็นโรงเรียนแพทย์ที่มีนักเรียนที่เรียนเก่ง ๆ พากันมาเรียน เช่น นักเรียนที่สอบได้ที่ 1 ของประเทศ เป็นต้น เพราะฉะนั้นคุณภาพของแพทย์รามาธิบดีจึงเป็นที่ยอมรับ ไม่ว่าด้านวิชาการ ด้านเครื่องมือที่ทันสมัยและด้านการบริการ

                            คุณอุ่นเรือน ให้ข้อมูลว่านับว่าโชคดีที่ได้รับโอกาสได้ทำงาน ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งที่เป็นที่ใฝ่ฝันของคนทั่วไปที่ต้องการทำงานในคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ความภูมิใจจะยิ่งเกิดขึ้นตลอดเวลาที่ได้ยินคำชื่นชมคณะฯ จนเป็นความผูกพัน

 

การเพิ่มความสามารถเพื่อรองรับการทำงาน

                            คุณอุ่นเรือน แกล้วทนง เล่าว่าคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จะสนับสนุนแพทย์และพยาบาลเป็นหลัก ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการจะไม่ท้อถอย ได้ตั้งใจปฏิบัติงานได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปตามขั้นตอน ต้องพยายามแก้ปัญหาเรื่องที่เราไม่มีความรู้ เช่น ด้านการสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ รวมทั้งจดรายงานการประชุมซึ่งผู้บริหารส่วนมากพูดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษทำให้ฟังไม่เข้าใจ แต่คุณอุ่นเรือนแก้ปัญหาโดยจดเป็นภาษาไทยก่อนแล้วเปิดหาศัพท์จากพจนานุกรมในภายหลัง เป็นต้น

 

ปัญหาและอุปสรรค

                            ปัญหาที่คุณอุ่นเรือน แกล้วทนง พบคือ เรื่องคน เนื่องจากเราทำงานคนเดียวไม่ได้ต้องมีการร่วมงานกัน ทั้งผู้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชา ในส่วนผู้บังคับบัญชานั้นคุณอุ่นเรือนจะดำเนินการตามนโยบาย ไม่ขัดต่อกฎระเบียบ เคารพความรู้ความสามารถของผู้บังคับบัญชาเสมอจนได้รับความเมตตามาตลอด ต้องรู้จักตัวตนของผู้ร่วมงานและมีสัมพันธ์ภาพที่ดีต่อกันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนในครอบครัวของคุณอุ่นเรือนเอง และมีการสร้างความใกล้ชิดสนิทสนมกันตลอดเวลา ส่วนผู้ใต้บังคับบัญชานั้นคุณอุ่นเรือนเข้าใจดีว่าทุกคนมีความสามารถต่างกันไป เมื่อใครทำงานได้ดีจะชม รวมถึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบถึงผลงานของผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอเมื่อได้ปฏิบัติงานที่มีผลงานดีเพื่อเป็นกำลังใจ

 

ความภาคภูมิใจในการทำงาน

                            คุณอุ่นเรือน แกล้วทนง มีความภาคภูมิใจมากที่สุดในช่วงที่ได้รับการสนับสนุนและได้รับเกียรติจาก คณบดี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้เป็นเลขานุการศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ซึ่งเป็นตำแหน่งข้าราชการ รวมทั้งบริหารจัดการเรื่องคนไข้พิเศษ ในขณะเดียวกันเป็นเลขาประธานกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฝ่ายหาทุนคือ ท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุล คุณอุ่นเรือนได้วางแผนจัดแต่งห้อง ปรับเฟอร์นิเจอร์ และอื่น ๆ ภายในอาคารศูนย์การแพทย์สิริกิติ์จนเป็นที่กล่าวขานถึงความสวยงาม รวมทั้งได้ให้บริการในฐานะคนไข้พิเศษ แก่ นายกรัฐมนตรี เชื้อพระวงศ์ และราชวงศ์ หลายท่านมาตลอด

                            สิ่งที่ไม่เคยคาดคิดและประทับใจมากเช่นกัน คือ ผู้บริหารให้ไปศึกษาดูงาน ณ ประเทศออสเตรเลียเป็นครั้งแรก นอกจากนี้คุณอุ่นเรือนยังได้รับการสนับสนุนให้เรียน Mini MPA ด้วย

                           คุณอุ่นเรือน มีความประทับใจคณบดีหลายท่าน เช่น ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิต ซึ่งเป็นผู้ที่ให้เกียรติ มองการไกลและเห็นความสำคัญของทุกคนไม่ใช่เฉพาะคนใดคนหนึ่ง และท่านให้โอกาสทุกคนจนเกิดความผูกพัน ข้อคิดที่ดีจากคุณอุ่นเรือน คือ “อย่าถามว่ารามาธิบดีให้อะไรกับเราแต่เราต้องถามว่าเราให้อะไรกับรามาธิบดี เพราะฉะนั้นเราก็ต้องปฏิบัติงานให้รามาธิบดีอย่างดีที่สุด”

 

ข้อเสนอแนะในการทำงานในปัจจุบันสำหรับบุคลากรรุ่นใหม่

                            คุณอุ่นเรือน แกล้วทนง ขอฝากข้อคิดให้บุคลากรรุ่นต่อมาว่า ในการทำงานนั้นคุณอุ่นเรือนยึดหลัก 4 ข้อ ดังนี้
1. ต้องเชื่อมั่นในอาชีพที่ได้เลือกแล้วและมั่นใจว่าจะต้องพบความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า
2. มีความภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในสถาบันที่ได้ปฏิบัติงาน คุณอุ่นเรือนมีความภูมิใจในคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อเชื่อมั่นสถาบันของเราแล้วตนเองก็จะทำงานให้ดีที่สุดเพื่อสถาบัน
3. เชื่อมั่นผู้นำโดยทำตามนโยบายที่ผู้นำได้กำหนดเอาไว้
4. เชื่อมั่นตัวเอง ต้องเชื่อมั่นว่าสามารถที่จะทำได้ ในกรณีที่ไม่เข้าใจสิ่งใดต้องสอบถามทันที

                            สุดท้ายขอฝากว่าคณะฯ มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ในอดีตและต้องมีชื่อเสียงต่อไป ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือมีบุคลากรที่ทำงานด้วยใจรักและทำสิ่งที่ดี ส่วนผู้บริหารควรต้องมองให้กว้าง ให้ความสำคัญกับทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายแพทย์ ฝ่ายพยาบาล และฝ่ายผู้สนับสนุน เปรียบเสมือนรถยนต์ถ้าขาดส่วนใดส่วนหนึ่งจะขับเคลื่อนไม่ได้แน่นอน