หน่วยรังสีวินิจฉัยฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านให้มีความรู้ความสามารถ ในด้านการตรวจวินิจฉัยภาพเอกซเรย์พื้นฐาน (Plain Radiography) ตรวจและแปลผลด้วยเครื่อง เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เครื่องสนามแม่เหล็ก (MRI) เครื่องคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) และเครื่องเอกซเรย์เต้านม (Mammography) เรียนรู้หลักการพื้นฐานของเครื่องมือแต่ละชนิด ข้อดี ข้อจำกัดของการตรวจ สามารถเลือกใช้เครื่องมือในการตรวจได้เหมาะสม สามารถรับปรึกษา ตลอดจนให้คำแนะนำในการตรวจทางรังสีวินิจฉัยได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นแพทย์ประจำบ้านจะได้รับการฝึกอบรมในด้าน Interventional Radiology มีส่วนร่วมในการตรวจพิเศษ เช่น การตัดชิ้นเนื้อตรวจโดยไม่ต้องผ่าตัด การขยายหลอดเลือดและท่อต่าง ๆ ในร่างกาย หรือแม้แต่การให้เคมีบำบัดผ่านเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนมะเร็งเป็นต้น รังสีแพทย์ต้องมีความรู้เกี่ยวกับงานทางด้านนี้พอสมควร เพื่อจะได้เลือกการตรวจทางรังสีวินิจฉัยที่เหมาะสม เข้าใจหลักการแปลผล และรู้ข้อจำกัดของการตรวจแต่ละชนิด เพื่อประโยชน์อันสูงสุดต่อผู้ป่วย
หน่วยที่สอง ของภาควิชารังสีวิทยา แพทย์ประจำบ้านจะได้มีพื้นฐานของการตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ เนื่องจากวิชาเวชศาสตร์นิวเคลียร์ เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการใช้สารไอโซโทป ในการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคต่างๆ โดยมีข้อเด่นที่สามารถให้ข้อมูลด้านสรีระวิทยาของอวัยวะนั้น ๆ การให้บริการทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ในประเทศไทยมีจำกัด และแพทย์ส่วนใหญ่ในประเทศยังรู้จักการใช้บริการจากวิชาเวชศาสตร์นิวเคลียร์ น้อย อย่างไรก็ตาม หากรังสีแพทย์สามารถนำความรู้ที่ได้เรียนจากหลักสูตรนี้ไปใช้ในการตรวจและ รักษาผู้ป่วยได้ในระดับหนึ่ง ความรู้ด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ในวงการแพทย์ไทยจะค่อยๆ พัฒนาขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยมากขึ้นในอนาคต
ส่วน หน่วยรังสีรักษานั้น ภาควิชาต้องการให้แพทย์ประจำบ้านรังสีวิทยา ได้รู้จักลักษณะของโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ที่พบบ่อยในประเทศไทยได้รู้ - เข้าใจวิธีการรักษามะเร็งเหล่านั้น รู้จักหลักการใช้รังสีในการรักษาโรคมะเร็งที่พบบ่อย และได้พบเห็นวิธีการใช้รังสีชนิดต่าง ๆ รู้วิธีส่งต่อและตรวจติดตามผู้ป่วยหลังการรักษาด้วยรังสีได้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้ประโยชน์สูงสุดในการรักษามะเร็ง และได้เรียนรู้สภาพทางร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยโรคมะเร็งและญาติ และรู้วิธีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลเหล่านี้