การเก็บรักษายา

การเก็บรักษายา ควรเก็บอย่างไรจึงจะเหมาะสม??

 

               โดยทั่วไปแต่ละบ้านจะมียาสามัญประจำบ้านสำหรับรักษาอาการเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆของคนในครอบครัว หรืออาจจะมียาเฉพาะโรคของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ซึ่งต้องทานยาต่อเนื่องตลอดชีวิต จึงอาจได้รับยาในแต่ละครั้งเป็นปริมาณมาก การเก็บรักษายาให้ถูกวิธีจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากเก็บยาไม่ถูกต้องแล้ว ยาดังกล่าวมีโอกาสที่จะเสื่อมคุณภาพก่อนวันหมดอายุของยา ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรักษาโรค และอาจเกิดอันตรายจากการใช้ยาที่เสื่อมคุณภาพนั้นได้ จากปัจจัยของสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้ตัวยาสำคัญมีการเสื่อมสลายทำให้ปริมาณยาที่ไปออกฤทธิ์ในการรักษาลดลง ไม่ว่าจะเป็น ความชื้น แสงแดด สารเคมี เป็นต้น

 

แสงแดด : ตัวยาหลายชนิดเมื่อโดนแสง  จะทำให้ตัวยาเกิดการเสื่อมสภาพ จึงไม่ควรเก็บยาให้โดนแสงแดด และไม่แกะเม็ดยาออกจากภาชนะบรรจุเดิมของยาโดยที่ยังไม่ต้องการใช้ เพราะเมื่อแกะยาแล้ว ยาจะมีโอกาสโดนแสงทำให้ยาเสื่อมสภาพได้  อุณหภูมิ : อุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไปจะมีผลต่อคุณภาพของยาได้ โดยทั่วไปมักให้เก็บยาที่อุณหภูมิห้อง คือ อุณหภูมิประมาณ 18 -25 องศาเซลเซียส แต่ยาบางชนิดอาจระบุให้เก็บในตู้เย็น โดยเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา ไม่เก็บไว้ที่ช่องแช่แข็งหรือที่ฝาตู้เย็น เพราะเมื่อเราเปิด-ปิดตู้เย็น อาจทำให้อุณหภูมิแกว่งขึ้นลงได้

ความชื้น : ตัวยาหลายชนิดเมื่อเจอความชื้นตัวยาจะเกิดการสลายตัว และยาเม็ดส่วนใหญ่เมื่อโดนความชื้นจะมีผลต่อชั้นเคลือบเม็ดยาทำให้บวมหรือเกาะเป็นก้อนได้ จึงไม่ควรเก็บยาในบริเวณที่มีความชื้นสูง และควรปิดฝาขวดยาให้สนิททุกครั้ง

อากาศ : ในอากาศมีก๊าซต่าง ๆ ซึ่งจะสามารถเร่งให้ยาเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น ดังนั้นจึงควรเก็บยาในภาชนะที่มีสามารถปิดสนิทมิดชิด และไม่แกะเม็ดยาออกจากภาชนะบรรจุเดิมของยาโดยที่ยังไม่ต้องการใช้

 

               นอกจากนี้ การจัดเก็บยาที่ไม่ถูกต้อง มักเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่มักพบได้บ่อยคือ การแกะเม็ดยาออกจากแผงยา แบ่งใส่ภาชนะบรรจุตลับใส่ยา เพื่อความสะดวกในการรับประทานยา แต่นั่นอาจจะ เป็นการทำให้ยาสูญเสียประสิทธิภาพของยาไป จากการที่ยาสัมผัสกับ อากาศ ความชื้น แสงแดด ซึ่งต่างก็เป็นตัวเร่งให้เกิดการเสื่อมสภาพของยาตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ดังนั้น จึงไม่ควรแกะยาที่บรรจุในแผงหรือแบ่งออกจากภาชนะที่ทางผู้ผลิตได้บรรจุมาเพราะประเภทบรรจุภัณฑ์เริ่มแรกนั้นจะได้ตามมาตรฐานที่ตำรายาระบุไว้ สามารถเก็บรักษายาให้มีประสิทธิภาพอยู่ได้จนถึงวันหมดอายุตามที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ แต่หากมีความจำเป็นต้องแกะยาออกจากแผงหรือแบ่งยาออกจากกระปุกใหญ่ ให้แบ่งออกมาทีละน้อย ไม่ควรเกิน 1สัปดาห์ ในกรณีที่เป็นยาบรรจุแผง ไม่แนะนำให้แกะเม็ดยาออกมาแต่แนะนำให้ตัดแบ่งแผงยาออกเป็นขนาดเล็กๆ โดยขอบแผงยาที่ตัดแล้วจะต้องไม่มีส่วนใดฉีกขาดหรือมีรูรั่วทะลุถึงส่วนในที่บรรจุยาเม็ดในแผง ก่อนจะบรรจุในถุงยาหรือกล่องยาที่ปิดแน่นมิดชิด และควรมีคุณสมบัติที่กันแสงได้ เช่น ซองยา กล่องยาหรือตลับยา เป็นต้น

 

      

 

      

 

นอกจากนี้ ก่อนรับประทานยาต้องดูวันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์ทุกครั้ง และสังเกตลักษณะทางกายภาพของเม็ดยาว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติหรือไม่ หากพบว่าเม็ดยามีลักษณะที่ผิดปกติหรือเปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยรับประทาน เช่น มีสีเปลี่ยนไปจากเดิม มีจุดด่างบนเม็ดยา มีกลิ่นที่ผิดปกติ เป็นต้น ควรงดรับประทานยาดังกล่าวและปรึกษาเภสัชกร