ไข้หวัดใหญ่ ตรงตัวอยู่แล้วว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ติดต่อโดยการสัมผัสละออง เช่น ไอ น้ำมูก เมื่อไปสัมผัสกับผู้อื่นก็ทำให้เกิดการติดต่อ
อาการของไข้หวัดใหญ่แตกต่างจากหวัดธรรมดาอย่างไร?
- อาการไข้หวัดธรรมดา จะมีแค่อาการไอ น้ำมูกไหล ไข้ต่ำๆ
- ไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการไข้ที่สูง และอาจจะรุนแรงทำให้ปอดบวมได้
- รู้สึกไม่สบายตัว มีอาการปวดเมื่อยตามตัว
เด็กเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่มักจะมีอาการไม่รุนแรง บางคนไม่ต้องกินยาต้านไวรัสก็หายเองได้ จะมีผู้ป่วยบางกลุ่มเราเรียกว่า ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ที่เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่จะเป็นรุนแรง เกิดอาการปวดบวม ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและอาจมีอันตรายถึงชีวิต
กลุ่มเสี่ยง ที่เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่จะเป็นรุนแรง ได้แก่
- เด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี
- ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 60 ปี
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกันบางอย่าง
การรักษาทำได้โดย
- หากคนไข้แข็งแรงดี ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง อาจจะแค่กินยาลดไข้ พักผ่อนเยอะๆ ดื่มน้ำเยอะๆ อาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้น
- หากเป็นกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว จะต้องกินยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ อาการก็จะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
คำแนะนำการป้องกันโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจสำหรับเด็ก ได้แก่
- พาเด็กไปฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน
- เด็กอ่อนควรเลี้ยงด้วยนมแม่ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ สวมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสโรค ไม่ควรใกล้ชิดกับผู้ป่วย
- ไม่นำเด็กเล็กไปยังสถานที่แออัด
- ฝึกให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ดูแลบ้านให้มีอากาศถ่ายเท
- เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ควรเลี้ยงเองที่บ้าน
- หากเด็กไอและหายใจลำบาก หอบ หายใจเร็ว แรง จนชายโครงบุ๋ม หายใจมีเสียงดัง ให้รีบพาไปพบแพทย์โดยด่วน
ข้อมูลจาก
อ. ดร. นพ.นพพร อภิวัฒนากุล
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
คลิกชมคลิปรายการ “Rama Focus | ฤดูฝน เด็กเล็กเสี่ยงป่วย โรคไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม” ได้ที่นี่
YouTube: https://youtu.be/Vto5VL-JQw8