สมอง อวัยวะที่เป็นส่วนสำคัญอย่างมากเปรียบเสมือนเครื่องมือสั่งการส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ แต่เมื่อมีการอักเสบของ เยื่อหุ้มสมอง ถึงเนื้อสมองเกิดขึ้นจึงนับว่าเป็นอันตรายที่ทำให้เกิด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เนื่องจากอาจส่งผลต่อชีวิตหรือทำให้เกิดทุพพลภาพได้
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
เกิดจากการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองที่ห่อหุ้มรอบสมองรวมไปถึงไขสันหลัง ส่วนใหญ่มักเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อได้ เช่น สารเคมี มะเร็ง การบาดเจ็บที่ศีรษะ ซึ่งผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะฉะนั้นการศึกษาเรื่องของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ – เยื่อหุ้มสมองอักเสบ รู้ไว ปลอดภัยกว่า
ปัจจัยเสี่ยงโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- เด็กเล็กและผู้สูงอายุผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ป่วยที่ต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ที่ถูกตัดม้าม
- ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน
- มีน้ำไขสันหลังรั่วจากฐานกะโหลกศีรษะแตก
อาการ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
อาการของผู้ป่วยที่มีเยื่อหุ้มสมองอักเสบมีดังต่อไปนี้
- ไข้สูงเฉียบพลัน
- คอแข็ง
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- อาเจียน
- ชัก
- สับสน มึน และหมดสติ
- เบื่ออาหาร
การวินิจฉัยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกายทั่วไปรวมถึงระบบประสาท นอกจากนี้ยังอาศัยการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อการวินิจฉัยโรค เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ดังนี้
- การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
-
- ตรวจเลือด เพื่อนำไปเพาะเชื้อก่อโรคของ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
-
- เจาะน้ำไขสันหลัง แพทย์จะดำเนินการเจาะน้ำไขสันหลังไปตรวจเพื่อประเมินปริมาณเม็ดเลือดขาว ชนิดของเม็ดเลือดขาว ระดับน้ำตาลและโปรตีน รวมถึงการสืบค้นทางห้องปฏิบัตการเพื่อหาเชื้อก่อโรค ซึ่งเป็นวิธีที่มีความแม่นยำมากที่สุดในการวินิจฉัยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- การตรวจภาพรังสีสมอง
- เอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นการถ่ายภาพสมองที่อาจพบการอักเสบของเยื้อหุ้มสมองหรือรอยโรคในเนื้อสมอง
วิธีการรักษา เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- กรณีเกิดเยื้อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อจะต้องได้รับการรักษาทันทีซึ่งแพทย์จะเริ่มยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อรา หรือยาต้านไวรัสเข้าทางหลอดเลือดดำตามเชื้อก่อโรค และให้การรักษาแบบประคับประคองในช่วงที่มีอาการ และติดตามอาการทางระบบประสาทอย่างใกล้ชิด
- แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
ข้อมูลจาก
รศ. นพ.จักรพงษ์ บรูมินเหนทร์
สาขาวิชาโรคติดเชื้อ
ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
อย่าลืมกดติดตามช่อง Rama Channel ที่น่าสนใจอีกมากมายได้ที่
Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: https://www.youtube.com/RamachannelTV
Facebook : https://www.facebook.com/ramachannel
Line: https://page.line.me/ramathibodi
Tiktok: https://www.tiktok.com/@ramachanneltv