05-01
Home
"กลิ่นตัว" เรื่องเล็กๆ ที่บั่นทอนความมั่นใจของเราได้
"กลิ่นตัว" เรื่องเล็กๆ ที่บั่นทอนความมั่นใจของเราได้

นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช โฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่าขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มที่ ทำให้ทั่วภูมิภาคของประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าว แสงแดดจ้าและมลภาวะต่างๆ เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคผิวหนังได้ง่าย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องกลิ่นตัว ซึ่งแม้จะไม่เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต แต่สามารถบั่นทอนความมั่นใจและบุคลิกภาพในการเข้าสังคมของคนจำนวนมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน

“กลิ่นตัวเหม็น” เกิดจาก

กลิ่นของสารเคมี ชื่อ Trimethylamine(ไตรเมทิลามีน) ซึ่งขจัดออกมาจากเหงื่อ ปัสสาวะและสารคัดหลั่งของร่างกาย ในหน้าร้อนคนเราจะมีเหงื่อออกตามร่างกายจำนวนมาก ทำให้แบคทีเรียเพิ่มจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้บริเวณที่เหงื่อไม่สามารถระเหยได้สะดวก เช่น ซอกรักแร้ ซึ่งมีต่อมเหงื่อ Apocrine(อะโปครายน์) ที่เป็นสาเหตุของกลิ่นตัวโดยตรง

โดยปกติต่อมชนิดนี้จะผลิตเหงื่อที่มีลักษณะขุ่นๆ คล้ายน้ำนม ประกอบด้วยสารพวกโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมัน โดยแบคทีเรียจะเป็นตัวย่อยสลายเหงื่ออะโปครายน์ จึงทำให้เกิดกลิ่นตัวขึ้น

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นตัวเหม็น คือ

พยายามอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือมากกว่านั้น หากรู้สึกว่าร่างกายมีเหงื่อไคล ร้อนอบอ้าว ฟอกสบู่ให้สะอาด โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ รอบหัวนม อวัยวะสืบพันธุ์ ลดกิจกรรมกระตุ้นให้เหงื่อออกมาก เลี่ยงอาหารและผลไม้บางชนิดที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม สะตอ ทุเรียน พริกป่น เนย ตับ ถั่ว ซึ่งเป็นแหล่งของสาร Trimethylamine(ไตรเมทิลามีน) โดยจะถูกขับออกมาพร้อมกับเหงื่อ

อะโปครายน์ส่งผลให้กลิ่นตัวฉุนมากขึ้น แต่บางรายมีเหงื่อออกไม่มาก แม้จะอาบน้ำทำความสะอาดแล้ว กลิ่นตัวก็ยังฉุนอยู่ อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น

ความเครียด ความกลัว ความโกรธ จึงจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นตัว (deodorant) ร่วมด้วย จะสามารถลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียได้ นอกจากนี้การโกนขนรักแร้ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะว่าขนเหล่านี้จะเก็บกักความชื้น เหงื่อไคล สิ่งสกปรกต่างๆ ทำให้จำนวนแบคทีเรียบริเวณดังกล่าวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีกลิ่นตัวรุนแรงได้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าบางเบา หลวมๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีวิตามิน C, E เช่น แครอท ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ

โฆษกกรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเผชิญกับแสงแดดเป็นระยะเวลานาน อาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังอื่นๆ โดยมีแสงแดดและความร้อนเป็นตัวกระตุ้น เช่น ผดผื่นคัน ลมพิษ และโรคมะเร็งผิวหนัง จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัดและไม่ตากแดดเป็นเวลานาน

หากมีความจำเป็นต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานานควรสวมหมวก กางร่ม ใส่แว่นตากันแดด ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เน้นเสื้อผ้าสีอ่อนเพื่อไม่ให้ดูดความร้อนและการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป และค่า PA+++ ที่สำคัญหากเกิดความผิดปกติของผิวหนัง ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโดยตรง อย่าปล่อยไว้จนลุกลาม

 

ข้อมูลจาก
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช
โฆษกกรมการแพทย์

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความ เรื่อง การ ดูแลฟัน เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะ ฟัน เป็นอวัยวะที่เราใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
การดูแลฟัน เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะฟันเป็นอวัยวะที่เราใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
Article
27-05-2024

1

ไม่อยากหูตึงก่อนวัยอันควร ต้องทำยังไง
หากไม่อยากหูตึงก่อนวัยอันควร มีข้อปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอาการหูตึงอย่างไร แล้วสามารถรักษาภาวะหูตึงได้หายขาดหรือไม่ มาไขข้อสงสัยกัน
Article
24-05-2024

5

โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ มีสาเหตุหลักคือการสะสมไขมันของเส้นเลือด เมื่อมีมากเกินไปไขมันดังกล่าวจะไปปิดทางเดินของเลือดจนมิดแล้วส่งผลต่อชีวิต
Article
23-05-2024

7

ตำแหน่งปวดหัวบอกโรคได้จริงหรือ
ปวดหัว ในตำแหน่งต่าง ๆ อาจจะพอบอกโรคคร่าว ๆ ได้บ้างโรคปวดศีรษะที่พบมากที่สุด เป็นโรคปวดหัวที่เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณรอบศีรษะ
Article
22-05-2024

11