บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มชนิดมีกลุ่มควบคุมแบบปกปิดสองทาง มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบอัตราการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยเด็กภาวะวิกฤตรายใหม่ระหว่างกลุ่มผู้ป่วยเด็กภาวะวิกฤตที่ได้รับการดูแลโดยใช้คอร์พิทอลินอล 60 กับกลุ่มที่ได้รับการดูแลด้วยน้ํามันดอกคําฝอย
ตัวอย่างคือ ผู้ป่วยเด็กภาวะวิกฤตที่นอนรักษาตัวในหอผู้ป่วยกุมารเวชบําบัดวิกฤต โรงพยาบาลรามาธิบดีจํานวน 320 คน ได้มาจากสุ่มตัวอย่างแบบ Block of four randomization ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับการดูแลโดยใช้คอร์พิทอลินอล 60 จํานวน 159 คน และกลุ่มที่ได้รับการดูแลโดยใช้น้ํามันดอกคําฝอย จํานวน 161 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบบันทึกข้อมูลทั่วไป แบบบันทึกผลลัพธ์การเกิดแผลกดทับ และแบบประเมินคัดกรองความเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับในเด็ก มีค่าความไวเท่ากับ .92 ค่าความจำเพาะเท่ากับ .59 และความสามารถในการประเมินความถูกต้องในการเกิดแผลกดทับ เท่ากับ .84
วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติบรรยาย สถิติทดสอบไคสแควร์และสถิติทดสอบฟิชเชอร์
ผลการวิจัย พบว่า เพศ อายุ การวินิจฉัยโรค ข้อบ่งชี้เข้าหอผู้ป่วยวิกฤต การได้รับยาให้สงบ การได้รับยากระตุ้นหลอดเลือด การใช้เครื่องช่วยหายใจ ภาวะพร่องออกซิเจน การได้รับอาหารทางสายยาง ข้อจำกัดการเคลื่อนไหว ปริมาณการถ่ายอุจจาระ ระดับอัลบูมิน ภาวะโภชนาการในเด็ก จำนวนวันนอน และคัดกรองความเสี่ยงแผลกดทับในเด็กกับวิธีการใช้ยาทั้ง 2 ชนิด ไม่มีความสัมพันธ์กันทางสถิติ และพบว่า อัตราการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยเด็กรายใหม่ ระหว่างกลุ่มผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการดูแลโดยใช้คอร์พิทอลินอล 60 กับกลุ่มผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการดูแลด้วยน้ำมันดอกคำฝอยไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติเช่นกัน ดังนั้น น้ำมันดอกคำฝอยสามารถป้องกันการเกิดแผลกดทับในผู้ป่วยเด็กภาวะวิกฤตได้ไม่ได้ด้อยไปกว่าคอร์พิทอลินอล 60