รังสีรักษาในมะเร็งปอด
รังสีรักษา (ฉายรังสี, ฉายแสง) เป็นการนำรังสีพลังงานสูงมาใช้ในการรักษามะเร็งซึ่งอาจจะเป็นการทำลาย หรือยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์มะเร็ง
กรณีของมะเร็งปอด รังสีรักษาสามารถใช้สำหรับโรคระยะแรกที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ หรือใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัด สำหรับโรคระยะลุกลามเฉพาะที่ หรือเป็นการรักษาเสริมเพื่อเพิ่มผลการควบคุมโรคร่วมกับวิธีรักษาอื่น ๆ หรือใช้รักษาบรรเทาอาการสำหรับโรคในระยะลุกลาม หรือแพร่กระจาย
เทคนิคทางรังสีรักษาในปัจจุบัน มีการพัฒนาเป็นรูปแบบของการฉายรังสีแบบ 3 มิติ ซึ่งใช้คอมพิวเตอร์ในการวางแผนรักษา เพื่อให้ทิศทางและปริมาณรังสีมีความเหมาะสมถูกต้องที่ตำแหน่งโรคมะเร็ง และลดปริมาณรังสีต่อเนื้อเยื่อปกติให้ได้มากที่สุดเพื่อลดผลข้างเคียงต่อผู้ป่วย ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความเข้าใจและร่วมมือในระหว่างการฉายรังสีดี อาจใช้รูปแบบการฉายรังสีแบบ 4 มิติ เพื่อฉายรังสีตามรูปแบบการหายใจที่สม่ำเสมอของผู้ป่วยได้
ผู้ป่วยที่ได้รับรังสีรักษา จะได้รับการบอกเล่าทำความเข้าใจถึงวิธีการรักษา ผลการรักษา ผลข้างเคียง การปฏิบัติตัวและดูแลตนเองตั้งแต่ก่อน ระหว่าง รวมถึงหลัง การรักษาด้วยรังสีรักษาเสร็จสิ้น เพื่อให้ได้รับทราบข้อดีหรือข้อเสีย รวมถึงความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับรังสีรักษา โดยส่วนใหญ่จะให้บุคคลในครอบครัวได้ร่วมรับทราบข้อมูลไปพร้อมกัน เพื่อประโยชน์ในการดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่
ขั้นตอนทั่วไปของผู้ป่วยที่มารับรังสีรักษา จะมีการนัดตรวจวางแผนด้วยคอมพิวเตอร์สแกน (CT scan) ก่อน หลังจากนั้นจะใช้เวลาวางแผนการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะนัดผู้ป่วยมาจำลองการฉายรังสี (Simulator) โดยใช้แผนการรักษาที่ได้จากคอมพิวเตอร์มาใช้กับตัวผู้ป่วยจริง แล้วจึงจะเริ่มขั้นตอนการฉายรังสีจริงในห้องฉายรังสีต่อไป ซึ่งการฉายรังสีแต่ละครั้งจะใช้เวลาไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับเทคนิคและแผนทางรังสีที่ใช้ โดยทั่วไปอาจใช้เวลา 10-15 นาที ต่อครั้ง อาจไม่เกิน 30 นาที วันละ 1 ครั้ง ใช้เวลา 5 วันต่อสัปดาห์ โดยเวลาทั้งหมดมีได้ตั้งแต่ 4 ถึง 7 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับลักษณะโรคของผู้ป่วย ส่วนกรณีการฉายรังสีด้วยเทคนิคพิเศษมาก ๆ เช่น เครื่อง Cyberknife จะใช้เวลาต่างไป เนื่องจากเป็นวิธีการพิเศษสำหรับรอยโรคขนาดไม่ใหญ่มาก ระยะเวลาเตรียมการ และวางแผนการรักษาอาจใช้เวลา 46 สัปดาห์ และการฉายรังสีแต่ละครั้งอาจใช้เวลามากกว่า 2 ชั่วโมง แต่ระยะเวลารักษาจะสั้นลงไม่เกิน 5 วัน
เทคนิคทางรังสีรักษาดังกล่าวมาแล้ว มีความเหมาะสมกับสภาวะโรคและผู้ป่วยแตกต่างกันไป ทั้งนี้ แพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้พิจารณาวิธีที่ผู้ป่วยจะได้ประโยชน์สูงสุด
ผลข้างเคียง และการดูแลตนเองเมื่อได้รับรังสีรักษา
ระหว่างฉายรังสี โดยทั่วไปผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำในการดูแลไม่ให้เกิดแผลบริเวณผิวหนังที่ฉายรังสี รับประทานอาหารและน้ำที่สุกสะอาด การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยลดการอักเสบในบริเวณปาก ลำคอ ทรวงอก สามารถลดหรือชะลออาการเจ็บปาก คอ หรือไอได้ มีการสอนและอบรมกลุ่มผู้ป่วยโดยพยาบาลเป็นระยะ และสามารถสอบถามแพทย์ผู้รักษาหรือพยาบาลได้ตลอดเวลาเมื่อมีปัญหาหรือข้อสงสัย
หลังฉายรังสีจบในช่วง 3-4 สัปดาห์แรก ผู้ป่วยจะดูแลตนเองเสมือนช่วงฉายรังสี หลังจากนั้น ผลข้างเคียงที่เหลืออยู่จะเป็นเนื้อเยื่อพังผืดบริเวณที่ฉายรังสี ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีอาการรบกวนชีวิตของผู้ป่วย ส่วนอวัยวะที่มีความสำคัญมากเช่น หัวใจ ไขสันหลัง การวางแผนทางรังสีรักษาจะจำกัดปริมาณรังสีให้อยู่ในระดับปลอดภัยและไม่เกิดอันตรายอยู่แล้ว หลังการรักษาเสร็จสิ้น แพทย์ผู้รักษาจะยังนัดตรวจติดตามผู้ป่วยเป็นระยะ ซึ่งสามารถดูแล ให้คำแนะนำ หรือแก้ไขผลข้างเคียงที่ผู้ป่วยประสบอยู่ หรือมีข้อสงสัยได้
เรียบเรียงและเขียนโดย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ธิติ สว่างศิลป์
หน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล