“โรคเบาหวาน” ถือเป็นอีกหนึ่งโรคฮิตที่คุกคามสุขภาพของคนทั่วโลก ทำให้ 3 องค์กรระดับโลกอย่าง สหพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ (IDF) องค์การอนามัยโลก (WHO) และสหประชาชาติ (UN) ร่วมมือกันกำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวัน “เบาหวานโลก” (World Diabetes Day)
ซึ่งตรงกับวันเกิดของ Frederick Banting ผู้ค้นพบอินซูลินรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน จึงเลือกวันนี้เพื่อเป็นเกียรติให้กับเขา นอกจากนี้ยังต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงอันตรายของโรคเบาหวาน โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโรคเบาหวานมากขึ้น
โดยสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคเบาหวานนั้นมีหลายอย่างด้วยกัน ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมการบริโภคที่ติดหวานของคนในปัจจุบัน ที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่เมนูที่แฝงไปด้วยน้ำตาลและความหวานอย่างคาดไม่ถึง จะมีอะไรบ้างนั้น ไปชมพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
ปริมาณน้ำตาลที่ควรบริโภคต่อวันไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือ 25 กรัม
- ส้มตําไทย 1 จาน น้ำตาล 41/2 ช้อนชา
- ข้าวคลุกกะปิ 1 จาน น้ำตาล 2 ช้อนชา
- ผัดไทยใส่ไข่ 1 จาน น้ำตาล 3 ช้อนชา
- ข้าวซอยไก่ 1 ถ้วย น้ำตาล 2 ช้อนชา
- ข้าวหมูแดง 1 จาน น้ำตาล 4 ช้อนชา
- ผัดหมี่แดง 1 จาน น้ำตาล 3 ช้อนชา
- ข้าวหมกไก่ 1 จาน น้ำตาล 2 ช้อนชา
- แกงมัสมั่นไก่ 1 ถ้วย น้ำตาล 2 ช้อนชา
- ก๋วยเตี๋ยวต้มยําสุโขทัย 1 ถ้วย น้ำตาล 2 ช้อนชา
- แซนด์วิชหมูหยองมายองเนส 1 ชิ้น น้ำตาล 2 ช้อนชา
- สลัดผักน้ำสลัดครีมข้น 1 จาน น้ำตาล 3 ช้อนชา
- ลอดช่องน้ำกะทิ 1 ถ้วย น้ำตาล 2 ช้อนชา
- ไอศกรีม 1 ถ้วย (55 กรัม) น้ำตาล 2 ช้อนชา
- น้ำหวาน 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร) น้ำตาล 6-8 ช้อนชา
- นมเปรี้ยว 1 ขวดเล็ก น้ำตาล 31/2 ช้อนชา
*หมายเหตุ*
- ปริมาณน้ำตาลส่วนใหญ่ถูกเติมลงไปตั้งแต่กระบวนการปรุงประกอบอาหาร ดังนั้นไม่ควรปรุงแต่งรสชาติด้วยน้ำตาล น้ำผึ้ง หรือเครื่องปรุงที่มีรสชาติหวานเพิ่มเติมลงไป
- ในกรณีที่เลือกรับประทานอาหารที่มีองค์ประกอบของน้ำตาลและอาหารมีรสชาติหวานอยู่แล้ว ควรหลีกเลี่ยงเครื่่องดื่มที่มีน้ำตาล ขนมหวาน รวมทั้งผลไม้ที่่มีรสชาติหวานจัดและน้ำผลไม้ในมื้อนั้น ๆ
ข้อมูลจาก
ดร.วนะพร ทองโฉม
นักวิชาการโภชนาการ กลุ่มสาขาวิชาโภชนศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล