สหรัฐอเมริกากำลังเร่งเตรียมความพร้อมรับมือกับการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ที่อาจเกิดขึ้น โดยล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ได้ขยายขอบเขตของประกาศภาวะฉุกเฉินที่มีมาตั้งแต่ปี 2556

 

การแก้ไขประกาศครั้งนี้ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ครอบคลุมไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ทั้งหมดที่มีแนวโน้มระบาดใหญ่ รวมถึงไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ที่กำลังเป็นที่กังวลในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการขยายจากเดิมที่เน้นเพียงสายพันธุ์ H7N9 เท่านั้น

 

ภายใต้ประกาศฉบับใหม่นี้ องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) สามารถขยายวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์บางชนิด และกระทรวงสาธารณสุขฯ มีอำนาจอนุมัติการใช้ยา อุปกรณ์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ได้รับการรับรองในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงชุดตรวจ PCR และ วัคซีนด้วย

 

ในเดือนมิถุนายน 2567 รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมและการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ เพื่อรับมือกับไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 โดยเฉพาะ และในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ FDA ได้ยืนยันว่าคลังวัคซีนสำหรับไข้หวัดนกของประเทศจะมีประสิทธิภาพหากจำเป็นต้องนำมาใช้

 

ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 แม้จะยังไม่มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกวางจำหน่ายในท้องตลาดสหรัฐฯ สำหรับประชาชนทั่วไป แต่มีวัคซีน H5N1 ที่ได้รับการรับรองจาก FDA แล้วสามชนิด ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Sanofi, GSK subsidiary ID Biomedical Corporation และ CSL Seqirus วัคซีนเหล่านี้ถูกเก็บไว้ในคลังวัคซีนไข้หวัดใหญ่ระดับชาติเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต