การเปรียบเทียบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกและโควิด-19 ในอนาคต ช่วยชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ภาครัฐของทุกประเทศต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อความเสี่ยงที่ไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่อาจก้าวข้ามจากสัตว์มาสู่มนุษย์อย่างฉับพลัน และส่งผลกระทบหนักหน่วงในวงกว้างกว่าโควิด-19
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่บ่งชี้ว่าไข้หวัดนกอาจสร้างความเสียหายมากกว่า ได้แก่ อัตราการแพร่กระจายและอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดในสัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่ และปศุสัตว์ เช่นในโคเนื้อและโคนมควบคู่กันจนนำไปสู่วิกฤตการณ์ด้านอาหาร ตลอดจนค่าใช้จ่ายมหาศาลที่จะตามมาจากความพยายามควบคุมการระบาดในสัตว์และมนุษย์พร้อมกัน
ดังนั้น การวางแผนเชิงรุกและการเสริมสร้างศักยภาพจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ภาครัฐสามารถป้องกัน ควบคุม และรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นการเยียวยาทางสังคมและเศรษฐกิจ มาตรการดูแลสุขภาพ หรือการสร้างหลักประกันความมั่นคงด้านอาหาร เพื่อนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้อย่างราบรื่นและเสียหายน้อยที่สุด
การเปรียบเทียบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก (ไข้หวัดสัตว์ปีก) กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 หากเกิดขึ้นในปัจจุบัน มีปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอัตราการแพร่กระจาย อัตราการเสียชีวิต การตอบสนองด้านการดูแลสุขภาพ ผลกระทบต่อสังคม ผลกระทบทางเศรษฐกิจ และความเป็นไปได้ของการระบาดพร้อมกันในสัตว์ปีกและปศุสัตว์ เช่นในโคเนื้อ และโคนม ที่ทำให้เกิดวิกฤตด้านอาหาร
อ่านบทความเต็มได้จาก https://shorturl.at/PDF6x