อันตรายจากการกินยาฆ่าเชื้อ
หน้าแรก
ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการกินยาฆ่าเชื้อ
ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการกินยาฆ่าเชื้อ

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า ยาฆ่าเชื้อกับยาแก้อักเสบคือยาตัวเดียวกัน เช่นเมื่อเป็นหวัดเจ็บคอ ก็มักจะหาซื้อยาแก้อักเสบมารับประทานเอง เพราะเข้าใจว่าไข้หวัดเกิดจากการติดเชื้อจึงหาซื้อยาเพื่อให้หายไวขึ้น ซึ่งในความจริงแล้วไข้หวัดอาจเป็นได้ทั้งจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย

ยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะ (antibiotic) เป็นยาที่ใช้ฆ่าเชื้อหรือยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัส แก้อาการอักเสบหรือแก้ปวดได้เหมือนการกินยาแก้อักเสบ (anti-inflammatory drugs) เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวด ดังนั้นยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบจึงไม่ใช่ยาตัวเดียวกัน

3 กลุ่มโรคที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ คือ โรคหวัด โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน แผลสด

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการใช้ยาฆ่าเชื้อ 

  1. ยาฆ่าเชื้อยิ่งแรง ยิ่งช่วยให้หายไว

    เป็นความเชื่อที่ผิด ยกตัวอย่าง การติดเชื้อของหวัดธรรมดามักเกิดจากเชื้อไวรัส ดังนั้นการกินยาฆ่าเชื้อหรือไม่กิน ก็หายเท่ากัน เพราะไวรัสสามารถหายเองได้

  2. ยาฆ่าเชื้อเหลือเก็บไว้รับประทานได้

    เป็นความเชื่อที่ผิด ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การติดเชื้อแต่ละครั้งไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรียเสมอไป และหากติดเชื้อที่อวัยวะแตกต่างกัน เช่น เคยกินยาฆ่าเชื้อที่คอ จะเอายาที่กินเหลือมาใช้เพื่อฆ่าเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ และไม่ควรใช้ยาร่วมกับผู้อื่น

  3. ยาฆ่าเชื้อแคปซูลแกะละลายน้ำดีกว่า 

    เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะตัวยาที่ถูกบรรจุในรูปแบบของแคปซูล จะถูกชั่งวัดตวงมาเรียบร้อยแล้ว การแกะแคปซูลไปละลายน้ำ ทำให้ตัวยาบางส่วนติดอยู่ตามก้นของแคปซูล ทำให้ร่างกายรับยาไม่ครบ นอกจากนี้ ยาในรูปแบบแคปซูลถูกออกแบบมาเพื่อให้ตัวยาสามารถไหลผ่านกรดในกระเพาะ ผ่านน้ำย่อยในลำไส้ส่วนต้นแล้วให้ยาไปสลายตัวและดูดซึมตรงลำไส้ การปลดแคปซูลออกก่อน จะทำให้ตัวยาถูกสลายหรืออาจรบกวนจากน้ำย่อย นอกจากจะไม่ทำให้การรักษาไวขึ้น หรือไม่ต่างกัน อาจส่งผลแย่กว่าการกลืนแคปซูลแบบปกติ 

อันตรายจากการกินยาฆ่าเชื้อผิดวิธี

  1. แพ้ยา หากแพ้ยาไม่มากอาจมีอาการมีผื่นคัน แต่หากเป็นมากอาจเกิดเป็นแผลหลุดลอกหรือเป็นรอยไหม้หรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
  2. เกิดโรคแทรกซ้อน ยาปฏิชีวนะจะฆ่าทั้งเชื้อแบคทีเรียก่อโรคและแบคทีเรียดีมีประโยชน์ในลำไส้ และหากแบคทีเรียดีก็อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้
  3. เชื้อดื้อยา การซื้อยากินเองอย่างพร่ำเพรื่อโดยไม่มีข้อบ่งใช้ อาจกระตุ้นให้เกิดเชื้อแบคทีเรียกลายพันธุ์เป็นเชื้อดื้อยา

แนวทางการรับประทานยาฆ่าเชื้อให้ปลอดภัย 

  1. หากคิดว่าต้องใช้ยาฆ่าเชื้อ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาที่ถูกวิธี
  2. เมื่อได้รับยาฆ่าเชื้อมาแล้ว ให้รับประทานตามฉลาก ตามคำแนะนำ และต้องรับประทานยาติดต่อกันจนหมดและต่อเนื่อง หากรับประทานยาไม่ต่อเนื่อง เพราะคิดว่าหายดีแล้วและหยุดยาเอง จะทำให้ร่างกายสะสมเชื้อดื้อยา ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะเสี่ยงเป็นโรคเชื้อดื้อยา และอาจเจ็บป่วยรุนแรงกว่าเดิม

ข้อมูลโดย
ผศ. นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ
สาขาวิชาเภสัชวิทยาและพิษวิทยาคลินิก ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล

เพิ่มเพื่อน Line Ramathibodi

บทความที่เกี่ยวข้อง