“พาราเซตามอล” ยาบรรเทาอาการปวด ใช้ลดไข้ในเด็กและผู้ใหญ่ เป็นยาสามัญประจำบ้านที่ไม่อันตราย ถ้าใช้ถูกต้องและเหมาะสม
วิธีการใช้ยา
- กินครั้งละ ไม่เกิน 2 เม็ด (1,000 มิลลิกรัม) และวันละไม่เกิน 8 เม็ด (4,000 มิลลิกรัม) ในผู้ใหญ่ และ 10-15 มิลลิกรัมของยา ต่อน้ำหนักตัวเด็ก 1 กิโลกรัม ต่อครั้งในเด็ก
- สามารถกินซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง โดยไม่เกินขนาดสูงสุดต่อวัน
- ระวังผู้ป่วยที่มีภาวการณ์ทำงานของตับบกพร่องหรือน้ำหนักตัวน้อย
- กรณีลืมยา สามารถกินได้ทันที โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา
อาการของการใช้ยาเกินขนาด
- คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เหงื่ออก ภายใน 24 ชั่วโมง
- เมื่อเจาะเลือดจะพบว่าเอนไซม์ทรานซามิเนส (transaminase) สูงขึ้นแสดงถึงอาการบาดเจ็บของตับ
- มีอาการตับอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร มีภาวะแทรกซ้อน หากรุนแรงอาจมีอาการสมองเสื่อมจากโรคตับ และเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที
ปัญหาที่พบจากการใช้ยา
- ใช้ยาพร่ำเพรื่อ
- ใช้ยาเกินขนาด
- ใช้ยาทั้งที่ไม่มีอาการ
ข้อควรระวังในการใช้ยา
- หากมีภาวการณ์ทำงานของตับผิดปกติต้องปรึกษาแพทย์
- ห้ามใช้ยากับคนที่แพ้ยาพาราเซตามอล อาการแพ้ยา ได้แก่ ผื่นขึ้น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ไม่ควรกินยาหากไม่มีอาการปวดหรือมีไข้
วิธีการเก็บรักษายา
- เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท พ้นแสงแดดและความร้อน
- เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- อย่าเก็บในที่ชื้น เพราะจะทำให้ยาเสื่อมสภาพ
ข้อมูลโดย
ภญ.นันทพร เล็กพิทยา
หัวหน้างานเภสัชกรรมคลินิก ฝ่ายเภสัชกรรม
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
เผยแพร่: กันยายน 2561