กรดไหลย้อนหายได้ แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

หน้าแรก

ชุดภาพ

กรดไหลย้อนหายได้ แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

A A

-+=

สิงหาคม 10, 2016

กรดไหลย้อนหายได้ แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

หมอรามาฯ ฝากบอก กรดไหลย้อนหายได้แค่เปลี่ยนพฤติกรรม

กรดไหลย้อนมีทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน

กรดที่ไหลย้อนไปถึงบริเวณหลอดอาหาร
กรดที่ไหลย้อนไปถึงบริเวณกล่องเสียง

กรดไหลย้อน เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน?

รู้หรือไม่ว่า…ในกระเพาะของเราจะมีกรดที่ช่วยในการย่อยอาหารและมี “กล้ามเนื้อหูรูด” ส่วนบนและส่วนล่างทำหน้าที่ เปิด-ปิด อยู่

เมื่อกล้ามเนื้อหูรูดเกิดความผิดปกติ หย่อนตัวลงไม่ทำหน้าที่ เปิด-ปิด เหมือนเดิม กรดในกระเพาะก็จะสามารถไหลย้อนไปยังหลอดอาหารและกล่องเสียงของเราได้

สาเหตุหลักของโรคกรดไหลย้อน ส่วนใหญ่มาจาก “พฤติกรรมการบริโภค”

อย่างเช่น นี่เลย…เร่งรีบไปทำงานจนกินข้าวไม่เป็นเวลา

ชอบดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ กินอาหารเผ็ด เปรี้ยว ของมัน ของทอด ขนมเค้ก ช็อกโกแลต “มากเกินพอดี”

รับประทานอาหารมื้อเย็นแล้วนอนทันที…ไม่รอให้อาหารได้ย่อยเลย ซึ่งควรรออย่างนั้ย 3-4 ชั่วโมง

กรดไหลย้อน อาการเป็นอย่างไรกัน?

เรอเปรี้ยว ปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอก กลืนลำบาก เจ็บหน้าอก ไอเรื้อรัง กล่องเสียงและหลอดอาหารอักเสบ

เมื่อเกิดอาการอักเสบเรื้อรังไปนาน ๆ บริเวณกล่องเสียงและหลอดอาหาร อาจจะมีผลทำให้เซลส์เยื่อบุผิวบริเวณนั้นกลายเป็นเซลส์มะเร็งได้ แต่มีโอกาสไม่เยอะมากประมาณ 1-6% เท่านั้น

การรักษาผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนนั้นต้อง “ใช้เวลา” บางทีอาจจะต้องรักษาเป็นเดือน ๆ กว่าอาการจะบรรเทาลง

แต่การรักษาหลัก ๆ คือการควบคุมพฤติกรรมการบริโภคของเราก่อน เป็นอย่างแรก ได้แก่

“ควบคุมอาหาร” จำพวกเปรี้ยว เผ็ด ชา กาแฟ น้ำอัดลม ของมัน ของทอด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขนมเค้ก ช็อกโกแลต งดสูบบุหรี่

ทำไมกินช็อกโกแลตแล้วมีผลต่อโรคกรดไหลย้อน? เพราะว่าช็อกโกแลต โกโก้ น้ำอัดลม กาแฟ มีคาเฟอีน ที่ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหย่อนตัวลงได้นั่นเอง

ห้ามเยอะขนาดนี้ จะกินอะไรดีหละ? แพทย์แนะนำให้ทานอาหารจำพวกต้มหรืออาหารไม่เน้นเผ็ด เน้นเปรี้ยว กาแฟไม่ควรทานเกินวันละ 1 แก้ว กินอาหารให้ตรงเวลา เป็นต้น

หลังทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ อย่าล้มตัวลงนอนทันที ต้อง “เว้นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ขึ้นไป”

หากกินของมันของทอดมาเยอะ ๆ อาจจะต้อง “รอมากกว่า 3 ชั่วโมง” เพราะไขมันจะใช้เวลาย่อยนานกว่าปกติ

นอนให้หัวสูงประมาณ 6-8 นิ้ว ไม่ใส่กางเกงหรือกระโปรงรัดแน่นจนเกินไป รวมถึงไม่ทานอาหารจนอิ่มแน่นเกินไปด้วย

สำหรับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อนและกลายเป็นมะเร็งแล้ว (มะเร็งหลอดอาหาร) นอกจากการควบคุมอาหารดังกล่าว ก็อาจจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด ฉายแสง หรือเคมีบำบัดร่วมด้วย