ภาวะขาดน้ำ (dehydration) คือ ภาวะที่เสียสมดุลของน้ำในร่างกาย โดยเปรียบเทียบระหว่างปริมาณน้ำที่ร่างกายได้รับเข้ากับการขับน้ำออกจากร่างกาย ผลกระทบจากการขาดน้ำในร่างกายจะทำให้ ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น มีอาการคอแห้ง หิวน้ำ และปัสสาวะออกมาเป็นสีเข้ม โดยภาวะขาดน้ำสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัย แต่ควรระมัดระวังและดูแลเป็นพิเศษในวัยผู้สูงอายุ
ทำไมจึงต้องระมัดระวังภาวะขาดน้ำในผู้สูงอายุ ?
เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นวัยที่สภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถอยลงทำให้อาการและอาการแสดงของภาวะขาดน้ำไม่ชัดเจนเหมือนในวัยผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุมักจะมีความรู้สึกกระหายน้ำลดลงหรือไม่มีเลยทั้งที่มีภาวะขาดน้ำเกิดขึ้นในร่างกาย รวมถึงสภาพร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลงจากโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ในวัยสูงอายุ เช่น ภาวะสมองเสื่อมทำให้ความสามารถในการดูแลตนเองลดลง อาจลืมดื่มน้ำระหว่างวันทำให้ไม่ได้รับน้ำได้อย่างเพียงพอ รวมไปถึงการได้รับยารักษาโรคประจำตัวต่าง ๆ เช่น ยาขับปัสสาวะ อาจทำให้ร่างกายเกิดการเสียน้ำมากกว่าปกติได้
สาเหตุของภาวะขาดน้ำในผู้สูงอายุ
- ดื่มน้ำน้อยเกินไป
- ปัสสาวะออกมากเกินไป
- การสูญเสียน้ำจากโรคบางอย่าง เช่น ผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษ ที่มีอาการอาเจียนและท้องเสีย
- การสูญเสียน้ำผ่านทางบาดแผลที่ผิวหนัง เช่น แผลจากไฟไหม้ หรือผู้ป่วยที่มีการหลุดลอกของผิวหนังปริมาณมาก
- เหงื่อออกมากเกินไป เช่น ผู้ป่วยที่เป็นไข้หรือผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ
อาการของ ภาวะขาดน้ำ
อาการที่ไม่รุนแรง
- หิวน้ำมาก
- ตาแห้ง
- ปากแห้ง
- ผิวแห้ง
- วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย
- ปวดศีรษะ
อาการที่มีความรุนแรง
- ความดันเลือดต่ำ
- หอบ หายใจเร็ว และหัวใจเต้นเร็ว
- ผิวหนังแห้ง ขาดความยืดหยุ่น
- ซึม สับสน สูญเสียการรับรู้
- ปัสสาวะเป็นสีเข้ม
- ปัสสาวะออกน้อยผิดปกติ
ภาวะแทรกซ้อนจาก ภาวะขาดน้ำ
- โรคลมแดด และโรคตะคริวแดด
- เกิดอาการช็อก เนื่องจากความดันเลือดต่ำ และออกซิเจนในร่างกายลดต่ำลง
- เกิดอาการชัก จากเกลือแร่ผิดปกติทำให้กล้ามเนื้อมีการหดตัว
- หมดสติ
- ไตมีความผิดปกติ เช่น ภาวะไตวายเฉียบพลัน
เวลาไหนไม่ควรดื่มน้ำเยอะ ?
- ใกล้ถึงเวลารับประทานอาหาร
- หลังรับประทานอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารมื้อเย็น
- ก่อนนอน
ควรดื่มน้ำเวลาไหน ?
- ตื่นนอน
- ทยอยดื่มเรื่อย ๆ ในระหว่างวันโดยไม่ต้องรอให้รู้สึกหิวน้ำ
น้ำแบบไหน ดื่มได้หรือดื่มไม่ได้ ?
การรักษาภาวะขาดน้ำ
การรักษาภาวะขาดน้ำด้วยตนเอง
- ให้ดื่มน้ำสะอาด และดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ที่เหมาะสม
- หยุดทำกิจกรรมที่จะทำให้มีการสูญเสียน้ำเพิ่มขึ้น และหาพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวกในการพักผ่อน
- ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น ให้สบายตัว
- ไม่ควรดื่มน้ำอัดลม หรือน้ำที่มีน้ำตาลสูง
การป้องกัน ภาวะขาดน้ำ
- ในกรณีที่ไม่มีข้อบ่งชี้ของการจำกัดน้ำ หากออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือทำกิจกรรมหนัก ๆ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว
- ใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ สามารถระบายความร้อนได้ดี
- พักผ่อนในสถานที่ที่มีอากาศเย็นสบายและถ่ายเทความร้อนได้สะดวก
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- หากมีอาการวิงเวียนศีรษะ อุณหภูมิในร่างกายร้อนมาก หรือเหนื่อยผิดปกติ ในขณะทำกิจกรรมหนัก ๆ หรือออกกำลังกาย ควรหยุดพักทำกิจกรรมนั้น ๆ
ภาวะขาดน้ำเป็นอีกหนึ่งอาการที่ผู้สูงอายุรวมไปถึงผู้ดูแลต้องคอยระมัดระวัง และหมั่นสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดในช่วงที่มีสภาพอากาศที่ร้อนจัด หากมีอาการผิดปกติไม่สามารถรักษาให้ดีขึ้นด้วยตัวเองควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาต่อไป
ในช่วงฤดูร้อน ผู้สูงอายุควรระมัดระวังภาวะขาดน้ำ โดยการจัดหาน้ำดื่มไม่ให้ห่างตัว หาที่พักอากาศเย็นสบาย จัดหาเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และให้ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กาแฟ น้ำหวาน อีกทั้งหากพบว่าผู้สูงอายุมีอาการผิดปกติ เช่น เป็นตะคริว อ่อนเพลีย ชีพจรเต้นเร็ว ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยทันที
ร้อนใช่เล่น…ระวังเป็นโรคลมแดด (Heat Stroke)
ข้อมูลจาก
ผศ. พญ.อรพิชญา ศรีวรรโณภาส
สาขาวิชาเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ
ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
อย่าลืมกดติดตามช่อง Rama Channel ที่น่าสนใจอีกมากมายได้ที่
Website Ramathibodi: https://www.rama.mahidol.ac.th/
Youtube: https://www.youtube.com/RamachannelTV
Facebook : https://www.facebook.com/ramachannel