1
หน้าแรก
โรคหลอดเลือดสมอง รู้ได้เร็ว รักษาได้ทัน
โรคหลอดเลือดสมอง รู้ได้เร็ว รักษาได้ทัน

ภาวะผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก

  • กลุ่มหนึ่ง ประมาณ 80-90% เป็นภาวะที่ไม่มีเลือดไปเลี้ยงสมองซึ่งอาจจะเกิดจากภาวะหลอดเลือดอุดตันหรือภาวะหลอดเลือดตีบ
  • กลุ่มที่สอง ประมาณ 15-20% จะเป็นภาวะที่มีเลือดออกในสมองซึ่งโรคที่ทำให้เกิดก็มาจากการฉีกขาดของหลอดเลือดเล็ก ๆ ที่หลาย ๆ คนเรียก หลอดเลือดฝอยฉีกขาด และอีกประมาณ 5% จะเป็นลักษณะของหลอดเลือดโป่งพองแล้วมันแตก อันนี้อัตราเสียชีวิตค่อนข้างสูง

เพราะฉะนั้น สรุปก็คือ ภาวะหลอดเลือดผิดปกติจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มที่สมองขาดเลือด กับ กลุ่มที่มีเลือดออกในสมอง

สาเหตุภาวะผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง

โรคหรือภาวะหลอดเลือดในสมองผิดปกติ เราพบได้ตั้งแต่อายุ 20, 30, 40 ไปจนถึงวัยกลางคน ไปจนถึงผู้สูงอายุ สาเหตุรูปแบบของการผิดปกติ มันมีความแตกต่างกันหลายรูปแบบ

ในกลุ่มคนอายุน้อย ๆ อาจจะเป็นลักษณะของความผิดปกติแต่กำเนิด เป็นความผิดปกติของระดับพันธุกรรมที่ให้หลอดเลือดในสมองผิดปกติเกิดเป็นปาน เกิดมีการต่อกันของหลอดเลือดผิดปกติ

ส่วนในวัยกลางคนก็มักจะเกิดจากการใช้ชีวิต สูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนใหญ่สาเหตุหลัก ๆ จะมาจากการสูบบุหรี่ นอกนั้นก็จะเป็นเรื่องของสารเคมีที่ใช้หรือยาที่ใช้ ยาบางอย่างก็ทำให้เกิดความผิดปกติของหลอดเลือด เช่น มีการอุดตัน หรือมีการอักเสบของหลอดเลือดได้

ส่วนในผู้สูงอายุก็จะเป็นลักษณะของความเสื่อม คือผนังหลอดเลือดมันเสียความยืดหยุ่นไป หรือมีภาวะของโรค เช่น เบาหวาน ความดัน โรคเลือด ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความผิดปกติของหลอดเลือดในวัยกลางคน และวัยผู้สูงอายุ

สัญญานเตือนภาวะผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง

อาการหลักคือ อาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว แขนขาอ่อนแรง หรือมีการพูดไม่ชัด แต่โอกาสที่มันจะเตือน ระยะเวลามันสั้นมาก บางคนไม่คิดด้วยซ้ำว่า อันนี้คือการเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง เพราะจริง ๆ แล้ว อาการปวดศีรษะ อาการคลื่นไส้ อาเจียน มันเป็นอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจง เพราะฉะนั้น มันค่อนข้างยากที่จะบอกว่าเป็นอาการของหลอดเลือดสมอง แต่ก็ต้องบอกว่าอาการปวดศีรษะ อาการคลื่นไส้ อาเจียน เป็นอาการนำของการเกิดภาวะของหลอดเลือดผิดปกติในสมอง

การรักษาภาวะผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง

ทุกคนก็ทราบดีว่าเวลามันเกิดความเสียหายขึ้นในสมองแล้ว โอกาสที่เราจะกลับมาเหมือนเดิมเรียกว่ามันค่อนข้างยาก เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ขนาดของเลือดที่ออก หรือขนาดของตำแหน่งของสมองที่เสียหาย ขนาดของสมองที่ขาดเลือด ตำแหน่งที่มีการเสียหายของสมอง อันนี้จะเป็นตัวแปรที่จะทำให้เราบอกได้ว่าคนไข้จะกลับมาได้แค่ไหน

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือ เวลามันมีการเสียหายของระบบประสาทหรือสมองเกิดขึ้นแล้ว มันเกิดขึ้น ณ วินาทีนั้นเลย ที่มีการฉีกขาดหรือมีการขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง เพราะฉะนั้น โอกาสที่คนไข้จะกลับมาเหมือนเดิมเลย มันก็ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย

แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรักษา และวิธีการรักษา เราก็ต้องจัดการในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัวของคนไข้เอง เบาหวาน ความดัน โรคไต โรคหัวใจ ถัดมาก็คือปัญหาที่ตัวสมองเอง เราจะสามารถควบคุมการอักเสบของสมองไม่ว่าจะเป็นจากการที่สมองขาดเลือด หรือมีเลือดออกในสมองได้อย่างไร และหลังจากนั้นแล้ว ถ้าคนไข้รอดชีวิตมาแล้ว การฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาหรือพอที่จะขยับแขนขา หรือลดการกดทับของร่างกายได้นี่ อันนี้ต้องปฏิบัติ ต้องทำต่อไป

การป้องกันภาวะผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง

วิธีการป้องการดีที่สุด ง่ายที่สุดและลงทุนน้อย คือ

  1. ต้องไม่สูบบุหรี่ สำหรับเรื่องแอลกอฮอล์ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ยิ่งดี
  2. การควบคุมโรคพื้นฐานที่เราเรียกว่า โรคที่ไม่ติดต่อ เบาหวาน ความดัน โรคไต ภาวะโภชนาการเกิน ถ้าเราสามารถควบคุมตรงนี้ได้ เราก็สามารถป้องกันภาวะผิดปกติของหลอดเลือดในสมองได้
  3. หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางกลุ่มที่มีโอกาสทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดสมองผิดปกติ เช่น ยาที่กระตุ้นให้กระปรี้กระเปร่า หรือยาที่ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว แม้แต่ยาคุมกำเนิด วิตามินบางชนิดก็อาจจะทำให้เกิดภาวะผิดปกติของหลอดเลือดในสมองได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ถ้าเราสามารถหลีกเลี่ยงหรือใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เราก็จะสามารถลดโอกาสในการเกิดความผิดปกติของหลอดเลือดในสมองได้

 

ข้อมูลโดย
ผศ. น.ท. นพ.สรยุทธ ชำนาญเวช
สาขาประสาทศัลยศาสตร์ ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “พบหมอรามาฯ : โรคหลอดเลือดสมอง รู้ได้เร็ว รักษาได้ทัน : Rama Health Talk (ช่วงที่ 1)” ได้ที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

ภาวะขาดน้ำ ที่ผู้สูงอายุต้องระวัง ยิ่งในช่วงหน้าร้อน อากาศแห้งทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำได้ง่าย จะมีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดภาวะนี้ได้อย่างไร มาทำความเข้าใจเพื่อนำไปป้องกันก่อนจะเกิดภาวะนี้กับร่างกาย
บทความสุขภาพ
24-04-2024

6

บทความ เรื่อง ไส้ติ่งอักเสบ อาการเริ่มต้น จะมีอาการ ปวดท้องข้างขวา แบบเฉียบพลันที่ไม่สามารถหายเองได้ หากปล่อยไว้ไม่รีบรักษาอาจเกิดภาวะที่อันตรายถึงชีวิตได้
ไส้ติ่งอักเสบ จะมีอาการเริ่มต้นคือปวดท้องข้างขวาแบบเฉียบพลันที่ไม่สามารถหายเองได้ หากปล่อยไว้ไม่รีบรักษาอาจเกิดภาวะที่อันตรายถึงชีวิตได้
บทความสุขภาพ
18-04-2024

2

บทความเรื่อง โรคคางทูม เกิดจาก การใช้ หลอดดูดน้ำ เดียวกัน จริงหรือ ? มีโอกาสติดโรคได้เนื่องจากสารคัดหลั่งของผู้ป่วยที่มีเชื้อบนหลอดสามารถแพร่เชื้อได้
โรคคางทูม เกิดจากการใช้หลอดดูดน้ำเดียวกัน จริงหรือ ? มีโอกาสติดโรคได้เนื่องจากสารคัดหลั่งของผู้ป่วยที่มีเชื้อบนหลอดสามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้
บทความสุขภาพ
17-04-2024

4

บทความเรื่อง ยาระบาย แก้ท้องผูก ได้จริงหรือไม่ ? ยาระบายจะเข้าไปช่วยให้การขับถ่ายให้กลับมาเป็นปกติ ดังนั้นยาระบายช่วยให้อาการ ท้องผูก หายได้เบื้องต้น
ยาระบาย แก้ท้องผูกได้จริงหรือไม่ ? ยาระบายจะเข้าไปช่วยให้การขับถ่ายให้กลับมาเป็นปกติ ดังนั้น ยาระบายช่วยให้อาการท้องผูกหายได้เบื้องต้นเท่านั้น
บทความสุขภาพ
11-04-2024

4