สายตาสั้นเทียม (Pseudomyopia)
เป็นภาวะสายตาสั้นที่เกิดขึ้นจากกล้ามเนื้อในเนื้อเยื่อ Ciliary Body ในลูกตาที่ใช้ในการเพ่งมองสิ่งที่อยู่ใกล้ มีการทำงานมากเกินไปจนเกิดการเกร็งค้าง ซึ่งหากจะอธิบายก็สามารถยกตัวอย่างได้ว่า
ในภาวะปกติ ตาคนเราที่มองวัตถุได้ชัดทั้งไกลและใกล้ เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อมัดนี้ ทำให้แก้วตาเพิ่มกำลังการหักเหของแสงอันจะทำให้วัตถุที่อยู่ใกล้ไปโฟกัส (Focus, จุดรวม) ที่จอตาได้ ซึ่งเวลามองไกลกล้ามเนื้อมัดนี้จะคลายตัว แต่เวลามองใกล้จะหดตัวเกร็งตัวเพื่อเพิ่มกำลังของแก้วตาเกิดภาวะสายตาสั้นที่ทำให้มองใกล้ได้ชัดเจน ผู้ใดที่จ้องมองใกล้อยู่นานๆ กล้ามเนื้อนี้จะทำงานอยู่นานกว่าปกติ จึงเกิดภาวะสายตาสั้นค้างอยู่ เมื่อมองไกลจึงยังอยู่ในภาวะสายตาสั้น ทำให้มองภาพไกลไม่ชัด ซึ่งมักเป็นอยู่ระยะเวลาหนึ่ง ถ้ากล้ามเนื้อนี้คลายตัว สายตาก็จะกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้น ภาวะนี้จึงถือว่าเป็นสายตาสั้นเทียมหรือสายตาสั้นชั่วคราว
ซึ่งแพทย์หลายๆ ท่านให้ความเห็นว่าในบางคนอาจจะทำให้จากสายตาสั้นเทียมหรือสั้นชั่วคราวกลายเป็นสายตาสั้นจริงและสั้นตลอดก็ได้
ส่วนสาเหตุนั้น สายตาสั้นเทียม มีสาเหตุมาจาก
การใช้สายตามองใกล้ เช่น เพ่งมองคอมพิวเตอร์ เล่นเกมส์ ใช้โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ นานเกินไป
นอกจากนี้ ยังมีโรคทางสมองที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติชนิด Parasympathetic มากเกินไปด้วย เช่น
จากอุบัติเหตุที่สมอง โรคตาบางชนิดทำให้ Ciliary body ทำงานหนักมากขึ้น เช่น ยูเวียอักเสบ (Uveitis) ผลข้างเคียงจากยารักษาโรคบางอย่าง เช่น ยาคลายเครียดในกลุ่ม Phenothiazine, ยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคพาร์กินสัน, ยา Chloroquine, ยา Diamox, ตลอดจนยาคลายกล้ามเนื้อต่างๆ หรือแม้แต่ยาบางตัวที่ใช้รักษาโรคต้อหินเช่น Pilocarpine ก็ทำให้เกิดภาวะสายตาสั้นชั่วคราวได้เช่นกัน
ส่วนแนวการป้องกันตาสั้นเทียมจะมีอย่างไรบ้าง มาดูกัน
- ควรมีการพักสายตาเป็นระยะ เมื่อต้องใช้สายตาระยะใกล้ เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ใช้เพ่งนั้นคลายตัวลง อาจจะเลือกใช้สูตร 20/20/20 คือใช้สายตาเพ่ง 20 วินาที มองไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที หรือ อาจจะพักสายตา 1 นาที ทุกครึ่งชั่วโมง หรือใช้สายตา 1 ชั่วโมง แล้วพักสายตา 5-10 นาทีก็ได้เพื่อไม่ให้เกิดการเพ่งค้าง
- ไม่ควรใช้สายตาในที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ หรืออ่านหนังสือที่มีตัวขนาดเล็กมากเกินไปเพราะจะยิ่งไปกระตุ้นให้เกิดการเพ่งมากขึ้นได้
ข้อมูลจาก
อ. นพ.กวิน วณิเกียรติ
ภาควิชาจักษุวิทยา
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล