“เค้าว่าคิดดีชีวิตก็ดี คิดบวกชีวิตก็บวก” แต่ถ้าเกิดคิดลบจะทำให้มีความสุขและค้นพบความสำเร็จได้ช้ากว่าคนที่คิดบวกเสมอ เรียกว่าแค่คิดลบ 1 นาที เราก็ก้าวช้าไปกว่าคนที่คิดบวกไปแล้วหลายก้าว ถ้าอย่างนั้นวันนี้เรามาฝึกจิตใจและระบบความคิดให้ชีวิตนำทางไปด้วยความคิดเชิงบวกกันดีกว่า
วันนี้เรามี 7 วิธีคิดเชิงบวก ให้ชีวิตน่าอยู่มานำเสนอกัน
- ยอมรับอดีต อย่าหวาดกลัวกับอนาคต ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด
- ใครจะคิดอย่างไรกับเราเป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา
- เวลา รักษาได้ทุกอย่างจงให้เวลากับมัน
- ไม่มีใครให้ความสุขที่ดีที่สุดแก่เราได้ นอกจากตัวเราเอง
- อย่าเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่น เพราะเราไม่รู้หรอกว่าที่จริงแล้วเขาผ่านอะไรมาบ้าง
- หยุดคิดมากกับบางเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องรู้คำตอบเสียบ้าง
- ยิ้มรับกับทุกสถานการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ลองนำ 7 วิธีคิดนี้ไปปฎิบัติตามดู
ส่วนใครที่ยังทำไม่ได้ อยากให้ลองเริ่มต้นจากการดูตัวอย่างของการจัดระบบการทำงานเพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งเหยิงที่จะนำไปสู่การมีสุขภาพจิตที่ดีของนักเขียนแนวให้กำลังใจใช้ชีวิตเชิงบวก อย่าง “คุณตุลย์ จตุรภัทร” เขามีเคล็ดลับการวางแผนชีวิต ด้วยการจัดระบบการทำงานล่วงหน้าเป็นแรมเดือน
“ผมจะมีไดอารี่อยู่เล่มหนึ่งผมจะให้คุณค่ากับมันอย่างมาก ทำอย่างน้อย 1 เดือน และลงรายละเอียดในแต่ละสัปดาห์จะทำให้เรารู้ว่าทุกวันที่เราตื่นขึ้นมา เราจะต้องทำอะไร แต่เราจะไม่เน้นให้ตึงเป๊ะมาก ให้เราใช้หลักยืดหยุ่นเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ซึ่งไดอารี่ผม ผมก็จะใช้ดินสอเขียนไม่เคยใช้ปากกาเผื่อที่จะได้ปรับยืดหยุ่นและลบมันทิ้งได้”
แต่ถ้าเกิดการงานมันเบียดเสียดแน่นทุกวันจนเกิดความล้า ความเครียด นักเขียนท่านนี้แนะนำให้พักผ่อนทำกิจกรรมอื่นๆ ในทันที ดังนี้
“ถ้าเรารู้สึกร่างกายเราไม่ไหว รู้สึกคิดไม่ออก เราก็จะมีความเครียด ผมแนะนำให้หยุดทำทันทีและให้หันมาทำอย่างอื่นก่อน อย่างผมจะอ่านหนังสือ เพราะเป็นคนชอบอ่านหนังสือทุกรูปแบบ ผมเชื่อว่าหนังสือมีคุณค่าในทุกเล่ม หรือเราอาจจะเปิดโอกาสให้กับเล่มอื่นๆ เพื่อพาตัวเองไปเจอคุณค่าใหม่ๆ ในเล่มใหม่ๆ ที่ได้อ่าน
เมื่อเราทำงานอย่างพอเหมาะ พักผ่อนอย่างพอเหมาะ ควรรับประทานอาหารให้ครบถ้วนด้วย อย่างผมจะทานครบ 5 หมู่ 3 มื้อหลัก 2 มื้อย่อยเพราะใช้พลังงานในการทำงานทั้งวัน เลือกที่จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ และการออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลาย เราก็เลือกปฎิบัติสลับกันไปอย่างวิ่ง ว่ายน้ำ และฟิตเนส เป็นต้น” เรียกว่าแค่นี้ก็ทำให้ชีวิตเป็นสุขได้ทั้งกายใจแล้ว
ข้อมูลจาก
คุณตุลย์ จตุรภัทร