โรคมะเร็งเต้านม เป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่หลายคนรู้ดีว่าสามารถเป็นได้ในผู้หญิง ซึ่งในกลุ่มของโรคมะเร็งยังพบว่ามะเร็งเต้านมเป็นโรคที่หญิงไทยเป็นกันมากที่สุด คิดเป็น 28.6 คนต่อผู้หญิง 1 แสนคน โดยพื้นที่กรุงเทพฯ และระยองเป็นพื้นที่ที่มีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมสูงสุด ขณะที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าโรคนี้ผู้ชายก็สามารถเป็นได้เช่นกัน
การเกิดโรคมะเร็งเต้านมมีปัจจัยเสี่ยง
ลำดับแรกคือเรื่องของเพศ ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากกว่าผู้ชายถึง 100 เท่า ในเรื่องของอายุก็มีส่วน เมื่อในจำนวนมากเราจะไม่พบผู้ป่วยโรคมะเร็งอายุน้อยกว่า 20 ปี แต่จะพบกับคนอายุมากซึ่งมากกว่าการเจริญพันธุ์ การมีบุตร เช่น มีบุตรคนแรกตอนอายุเท่าไร ก็เป็นปัจจัยหนึ่ง หรืออายุเริ่มต้นของการมีประจำเดือน อายุของการหมดประจำเดือน การทานยาคุม การทานยาเสริมฮอร์โมนในช่วงวัยที่หมดประจำเดือนไปแล้ว (วัยทอง) การได้รับการฉายแสงรังสีรักษาในวัยเด็ก การดื่มสุรา เป็นต้น
อาการที่เป็นสัญญาณบอก
ส่วนมากการคลำพบก้อนที่เต้านมหรือรักแร้ เต้านมเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปจากเดิมมีผิวหนังที่เปลี่ยนไป ขนาดเต้านมเปลี่ยน มีน้ำออกมาจากเต้านม หรือมีสีของหัวนมที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับอาการปวดพบว่าเป็นเพียงอาการส่วนหนึ่งที่เกิดร่วมกับก้อน มักไม่ใช่อาการนำของการเป็นมะเร็งเต้านม
มะเร็งเต้านมแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
- ระยะต้น โดยระยะต้นจะคลำเจอก้อนเล็กๆ ที่เต้านม ขนาดของก้อนไม่เกิน 2 เซนติเมตร
- ระยะลุกลาม ระยะลุกลามจะมีขนาดโตขึ้นและอาจแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้
- ระยะแพร่กระจาย ระยะแพร่กระจายอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นที่ห่างไกล เช่น ตับ ปอด สมอง กระดูก เป็นต้น
ถ้ามีการแพร่กระจายไปยังตำแหน่งไหนอาจทำให้มีอาการปวด เช่น
กระดูก หรืออาจจะทำให้อวัยวะส่วนนั้นทำงานบกพร่องไป เช่น สมอง อาจปวดศีรษะ แขนขาอ่อนแรง หรือสับสน ในผู้ชายก็สามารถเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้ แต่น้อยกว่าผู้หญิงเป็น 100 เท่า พบประมาณ 0.1 ต่อประชากรชายแสนคน อาการของผู้ชายก็จะคล้ายๆ กัน คือคลำเจอก้อนที่เต้านมหรือรักแร้
มะเร็งสามารถแพร่กระจายไปยังทางเดินน้ำเหลืองได้
ทำให้เกิดแนวคิดที่ว่าการสวมใส่ชุดชั้นในแบบมีโครงจะทำให้น้ำเหลืองไหลเวียนไม่สะดวก กลายเป็นความเชื่อว่าการสวมใส่ชุดชั้นในตอนนอนมีผลทำให้เกิดมะเร็งเต้านมนั้น ทางการแพทย์กล่าวว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และสำหรับข้อสงสัยที่ว่าผู้ที่มีหน้าอกใหญ่จะมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้ที่มีหน้าอกขนาดเล็กนั้นเป็นไปได้ และถึงแม้จะพบในผู้ที่มีอายุมากเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังพบในเด็กวัยรุ่นเช่นกัน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับพันธุกรร,
ข้อมูลจาก
อ. นพ.มนต์ชัย สมบัติไพบูลย์
สาขาวิชาศัลยศาสตร์เต้านมและต่อมไร้ท่อภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล