โรคเมลิออยโดสิส โรคติดเชื้อที่ควรเฝ้าระวัง
หน้าแรก
โรคเมลิออยโดสิส โรคติดเชื้อที่ควรเฝ้าระวัง

โรคเมลิออยโดสิส โรคติดเชื้อที่ควรเฝ้าระวัง

โรคเมลิออยโดสิส เป็นโรคติดเชื้อที่ในประเทศไทยยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ความรุนแรงของโรคทำให้เสียชีวิตได้ หากติดเชื้อในกระแสเลือด จึงควรทำการศึกษาร่วมกันเพื่อทำความเข้าใจและปฏิบัติตนให้เหมาะสม

โรคเมลิออยโดสิส

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Burkholderia pseudomal lei (B. pseudomallei) ก่อให้เกิดอาการหลายลักษณะ ได้แก่ ติดเชื้อที่ผิวหนัง ติดเชื้อในปอด ติดเชื้อในกระแสเลือด และติดเชื้อในอวัยวะภายใน (ตับ ไตสมอง กระดูก)

การติดเชื้อผ่านทางผิวหนัง

อาจทำให้เกิดอาการแผลเรื้อรัง เกิดฝีหรือหนองตามผิวหนัง และอาจมีตุ่มขึ้น เป็นที่อยู่ของเชื้อแบคทีเรีย หากรับเชื้อผ่านทางน้ำลาย เช่น การรับประทาน จะทำให้ติดเชื้อที่ต่อมน้ำลาย มีลักษณะบวมขึ้นมาเป็นฝีหรือหนอง หรืออาจบวมบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่คอ มีอาการกดเจ็บได้

การติดเชื้อในปอด

จะทำให้มีอาการไข้ขึ้น และอาการทางเดินหายใจ ไอ มีเสมหะ หากนำเสมหะมาตรวจดูอาจพบเชื้อได้ และหากเอ็กซเรย์ที่ปอดอาจพบก้อนหนอง บางครั้งแพทย์สับสนระหว่างวัณโรค

การติดเชื้อในกระแสเลือด

เชื้อสามารถเข้าทางผิวหนังหรือปอด เช่น กรณีที่มีบาดแผล เชื้ออาจเข้าทางบาดแผลและติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ความดันโลหิตต่ำ ช็อค เป็นฝีในตับหรือในม้าม สามารถเสียชีวิตได้ภายใน 2-3 วัน หากได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง นอกจากการติดเชื้อตามที่กล่าวมา ยังมีการติดเชื้อชนิดเรื้อรังอีกหนึ่งประเภทในโรคเมลิออยโดสิส

ความอันตรายของ โรคเมลิออยโดสิส

คือการวินิจฉัยโรคช้าเกินไปทำให้รักษาไม่ทันเวลา ส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตตามมา เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด การเกิดภาวะไตวาย หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ทำให้อวัยวะอื่นทำงานบกพร่องไป การได้รับยาไม่ถูกชนิดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคได้

ตัวเชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง ได้แก่ ผ่านทางผิวหนัง เช่น หากมีบาดแผลและเดินบนดินหรือน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ ทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ผ่านทางลมหายใจ กรณีที่มีการฟุ้งของฝุ่นหรือดินที่มีเชื้ออยู่และสูดดมเข้าไป ก่อให้เกิดการติดเชื้อที่ปอด จะส่งผลให้เกิดอาการปอดอักเสบ

ในคนดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคเมลิออยโดสิส หากสัมผัสไปโดนสารคัดหลั่งก็มีโอกาสติดเชื้อได้ รวมถึงผู้ที่ดูแลวัวหรือควายซึ่งเป็นสัตว์ที่สามารถป่วยเป็นโรคเมลิออโดสิสได้ มีความเสี่ยงเช่นกัน สำหรับเชื้อที่อยู่ในซากสัตว์ที่ตายไปแล้วและถูกฝัง เชื้อจะคงอยู่ในดินบริเวณนั้นและอยู่ตลอดไป หากมีการสัมผัสที่ดินบริเวณนั้นก็มีโอกาสได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย

กลุ่มเสี่ยงได้แก่

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโลหิตจางหรือทาลัสซีเมีย ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยเอชไอวี รวมถึง คนไข้โรคมะเร็งบริเวณต่าง ๆ และกลุ่มเกษตรกรที่ต้องสัมผัสกับดินและน้ำด้วยเท้าเปล่า ขอแนะนำคือพยามสวมใส่รองเท้าบูทหากเป็นไปได้ หรือถ้าหากหลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าบนดินและน้ำไม่ได้ พยายามอย่าปล่อยให้เท้ามีบาดแผล และควรทำความสะอาดให้ดีหลังเดินบนดินและน้ำ หากมีไข้ควรรีบพบแพทย์แต่แรกอย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพื่อการรักษาที่ทันเวลา ป้องกันอาการรุนแรงที่เป็นอันตราย

โรคเมลิออยโดสิส สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากมีการวินิจฉัยถูกต้องตั้งแต่ระยะแรก รักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะใน 2 สัปดาห์แรกด้วยวิธีฉีด หลังจากนั้นแพทย์จะให้ยาชนิดกินต่อไปเป็นเวลา 5 เดือน หากมีภาวะแทรกซ้อนอาจให้ยาเพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม

 

ข้อมูลจาก
อ. นพ.ประวัฒน์ จันทฤทธิ์
สาขาวิชาอายุรศาสตร์ทั่วไป ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “โรคเมลิออยโดสิส โรคที่ถูกพยากรณ์ให้เฝ้าระวังในปี 60 :พบหมอรามา ช่วง Big Story” ได้ที่นี่

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

มะเร็งไทรอยด์มักไม่มีอาการในระยะแรก
มะเร็งไทรอยด์มักไม่มีอาการในระยะแรก แต่หากตรวจพบเร็วสามารถรักษาได้ทันและมีโอกาสหายสูง รู้เท่าทันเพื่อดูแลตัวเองและคนที่คุณรัก
บทความสุขภาพ
03-06-2025

1

รู้ทัน ถุงน้ำในตับอ่อน เสี่ยงทุกวัย ไม่เลือกเพศ
ถุงน้ำในตับอ่อนเป็นโรคเงียบที่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย อาจไม่มีอาการแต่เสี่ยงกลายเป็นมะเร็ง รู้ทันเพื่อวางแผนตรวจและรักษาอย่างทันท่วงที
บทความสุขภาพ
29-05-2025

11

แพทย์เตือน ! ห้าม ล้างไก่สด ก่อนปรุง
การล้างไก่สดก่อนปรุงอาจกระจายเชื้อแบคทีเรียอย่างแคมไพโลแบคเตอร์ไปยังอ่างล้างจานและเครื่องครัว เสี่ยงปนเปื้อนอาหารและทำให้เกิดโรคท้องร่วง
บทความสุขภาพ
28-05-2025

12

โรคพยาธิในช่องคลอด-ภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในร่างกายผู้หญิง
โรคพยาธิในช่องคลอดเกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว มักมีอาการตกขาวมีกลิ่น คัน แสบ หากไม่รักษาอาจลุกลามและส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง
บทความสุขภาพ
25-05-2025

12

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL