ลดเค็ม...พฤติกรรมสำคัญ ช่วยลดโรคร้ายอย่างได้ผล
หน้าแรก
ลดเค็ม...พฤติกรรมสำคัญ ช่วยลดโรคร้ายอย่างได้ผล

ลดเค็ม...พฤติกรรมสำคัญ ช่วยลดโรคร้ายอย่างได้ผล

พฤติกรรมการทานอาหารของคนไทยหนึ่งอย่างที่ส่งผลเสียต่อร่างกายคือการทานรสเค็มที่มากเกินความจำเป็น ส่งผลให้มีสถิติของผู้ป่วยโรคต่างๆ มากขึ้น ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากการทานรสเค็มจัด ทำให้ปัจจุบันมีการรณรงค์เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารโดยการ ลดเค็ม เพื่อป้องกันโรคร้ายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลดเค็ม…เป็นพฤติกรรมสำคัญที่ควรปฏิบัติอย่างจริงจัง

สามารถทำได้ง่ายแต่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายต่างๆ ได้หลายโรคด้วยกัน เนื่องจากปกติอาหารทั่วไปมักมีรสเค็มตั้งต้นอยู่แล้ว แต่พฤติกรรมคนไทยชอบเพิ่มรสเค็มเข้าไปอีก เช่น การเติมพริกน้ำปลา การจิ้มซอสหรือน้ำจิ้มที่มีส่วนประกอบของเกลือ เป็นต้น ทำให้ร่างกายได้รับรสเค็มเป็นส่วนเกินและทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา จากผลสำรวจพบว่าคนไทยมีการทานรสเค็มเกินความต้องการสูงถึง 2 เท่า

ปริมาณเกลือโซเดียมที่เจอในชีวิตประจำวัน

  • เกลือ 1 ช้อนชา เท่ากับ โซเดียม 2,000 มิลลิกรัม
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ เท่ากับ โซเดียม 1,160-1,420 มิลลิกรัม
  • ซีอิ๊ว 1 ช้อนโต๊ะ เท่ากับ โซเดียม 690-1,420 มิลลิกรัม
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ เท่ากับ โซเดียม 1,150 มิลลิกรัม
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ เท่ากับ โซเดียม 1,430-1,490 มิลลิกรัม
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ เท่ากับ โซเดียม 420- 490 มิลลิกรัม

สำหรับพฤติกรรมการลดเค็มสามารถทำได้โดย

ลดการปรุงรสเค็มลงทีละน้อย เพราะถ้าหากลดทีละมากๆ จะทำให้รู้สึกไม่อร่อยและไม่อยากทาน สุดท้ายการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็จะไม่สัมฤทธิ์ผล ซึ่งโดยปกติลิ้นของคนเราจะมีการปรับตัว หากลดความเค็มลง 10% จะทำให้ลิ้นไม่สามารถจับรสชาติได้ จึงต้องค่อยๆ รสความเค็มลงทีละน้อย เพื่อให้มีความสุขกับการบริโภคเหมือนเดิมและดีต่อสุขภาพ เริ่มต้นที่การไม่ปรุงเพิ่มหรือปรุงในปริมาณที่ลดลงก่อน

สำหรับเกลือซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่ให้ความเค็มและก่อให้เกิดโรคโดยเฉพาะโรคไต แต่ถึงอย่างนั้นในเกลือก็ยังมีโซเดียมซึ่งเป็นสารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยโซเดียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่เกี่ยวกับสมดุลน้ำของร่างกาย ซึ่งจะได้รับจากการรับประทานอาหารเป็นหลัก ร่างกายไม่สามารถขาดโซเดียมได้ จึงยังต้องบริโภคเกลืออยู่ภายใต้การจำกัดในปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่ควรทานเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือประมาณ 1 ช้อนชา และถ้าหากเปลี่ยนเกลือเป็นน้ำปลา ร่างกายก็ไม่ควรได้รับน้ำปลาเกิน 4 ช้อนชาต่อวัน

ปริมาณโซเดียมในอาหารเมนูตัวอย่าง

  • ปลาเค็ม 100 กรัม มีโซเดียมเฉลี่ย 5,327 มิลลิกรัม
  • ปลาร้า 100 กรัม มีโซเดียมเฉลี่ย 6,016 มิลลิกรัม
  • โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป 1 ถ้วย (35 กรัม) มีโซเดียมเฉลี่ย 900 มิลลิกรัม
  • ผักกาดดอง 1 กระป๋อง (30 กรัม) มีโซเดียมเฉลี่ย 1,720 มิลลิกรัม
  • ลูกชิ้น 5 ลูก (30 กรัม) มีโซเดียมเฉลี่ย 640 มิลลิกรัม
  • แหนมหมู 1 ไม้ (15 กรัม) มีโซเดียมเฉลี่ย 480 มิลลิกรัม
  • ไส้กรอกหมู 1 ลูก (30 กรัม) มีโซเดียมเฉลี่ย 204 มิลลิกรัม
  • หมูยอ 4 ชิ้น (30 กรัม) มีโซเดียมเฉลี่ย 227 มิลลิกรัม

นอกจากการลดปริมาณการปรุงเพิ่ม สิ่งที่ตามมาคือการเลือกทานอาหาร โดยหลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณเกลือโซเดียมที่มากเกินไป หรือทานในปริมาณที่พอดี เพื่อไม่ให้เกิดความเค็มส่วนเกินในร่างกาย

โรคที่สำคัญซึ่งเกิดจากการทานอาหารรสเค็มจัด

คือโรคไต แต่นอกจากนี้ก็ยังมีโรคอื่นๆ ด้วยที่เกิดจากการทานรสเค็มจัด อย่างเช่นโรคความดันโลหิต กลไกการเกิดโรคคือเมื่อร่างกายได้รับเกลือจะเกิดการดึงน้ำเข้ามาในกระแสเลือด ทำให้ขาบวม ตาบวม หากทานติดต่อกันในระยะยาวจะส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น จึงเกิดโรคความดันโลหิตสูงในที่สุด และถ้าหากสูงมากๆ จะทำให้เป็นโรคหัวใจตามมา นอกจากนี้ก็ยังมีโรคอัมพาตที่มีการทานรสเค็มจัดเป็นปัจจัยเสี่ยง รวมถึงโรคกระดูกพรุน เพราะการทานเค็มจะทำให้แคลเซียมมาปนอยู่ในปัสสาวะมากขึ้น ส่งผลให้กระดูกสูญเสียแคลเซียม และเกิดการเปราะบาง

 

ข้อมูลจาก
ผศ. นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ
ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “รายการพบหมอรามา | Big Story โรงพยาบาลต้นแบบลดเค็ม” ได้ที่นี่

ติดตาม Rama Channel เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ 
RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปัจจัยไหนเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง
โรคมะเร็งผิวหนังเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งแสงแดดรุนแรง พันธุกรรม และพฤติกรรมเสี่ยง มารู้จักสาเหตุ อาการเตือน และวิธีป้องกัน เพื่อดูแลผิวให้ปลอดภัย
บทความสุขภาพ
08-11-2025

0

ไม่อยากมีรอยแผลเป็น ต้องเลี่ยง 5 พฤติกรรมนี้
รอยแผลเป็นเกิดจากพฤติกรรมบางอย่างที่หลายคนไม่รู้ตัว มาดู 5 พฤติกรรมที่ควรเลี่ยงเพื่อป้องกันแผลเป็น พร้อมเคล็ดลับดูแลผิวให้เรียบเนียนและฟื้นตัวไวขึ้น
บทความสุขภาพ
07-11-2025

0

รู้จักยา Omeprazole ยาลดกรดที่หลายคนคุ้นเคย
Omeprazole ยาลดกรดที่ช่วยรักษาโรคกรดไหลย้อนและแผลในกระเพาะอาหาร รู้วิธีใช้ ข้อควรระวัง และผลข้างเคียงที่ควรรู้ก่อนใช้ยาอย่างปลอดภัย
บทความสุขภาพ
07-11-2025

0

ไวรัสซิกา โรคติดต่อจากยุงลาย
ไวรัสซิกาเป็นโรคติดต่อจากยุงลายที่ควรระวัง โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ เพราะอาจกระทบต่อพัฒนาการทารก รู้จักอาการ การป้องกัน และวิธีลดความเสี่ยงจากยุง
บทความสุขภาพ
06-11-2025

0

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL