มีคุณพ่อคุณแม่หลายคนบ่นถึงลูกๆ ในยุคนี้ว่า ไม่ค่อยมีน้ำใจ บ้างก็ติดหนึบหนับกับสังคมออนไลน์จนไม่สนใจคนรอบข้าง ทำให้เราต้องมามองหาวิธี “ใส่” ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับหัวใจดวงเล็ก ๆ ของเด็ก ๆ ที่กำลังจะโตเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า ซึ่งคนที่จะใส่ได้นั้นไม่ใช่ใคร หลัก ๆ คือ คุณพ่อคุณแม่ที่อยู่กับเขาทุกเมื่อเชื่อวันนั่นเอง ลองมาดูกันไหมคะว่า ท่านผู้อ่านในฐานะพ่อแม่ จะสามารถทำอะไรที่แสดงออกได้ถึงความมีน้ำใจ ความเอื้ออารีต่อคนรอบข้างให้ลูกดูเป็นตัวอย่างได้บ้าง
- ให้ความช่วยเหลือ หากพบว่า มีคนเอื้อมมือหยิบของบนที่สูงไม่ถึง (ถ้าคุณตัวสูงพอ)
- หากกำลังจะเปิดประตูเข้าอาคารห้างร้าน แล้วพบว่า มีคนเดินตามาข้างหลัง แค่เปิดประตูค้างไว้นานอีกนิด เผื่อให้คนที่ตามมาข้างหลังได้เข้ามาด้วยก็จะเป็นการแสดงความเอื้อเฟื้อต่อเขาด้วยเช่นกัน
- ยิ้มและทักทายคนรู้จักด้วยไมตรีจิต
- ให้กำลังใจเพื่อน หรือคนรู้จัก หากทราบว่า เขาเจอเรื่องแย่ ๆ มา
- เมื่อได้ทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ พยายามจำชื่อ และเอกลักษณ์ของคน ๆ นั้นเอาไว้ วันหน้าหากคุณได้พบกับเขาเหล่านั้นอีก และเขาทราบว่า คุณจำได้ เขาจะรู้สึกดีกับตัวเอง และกับตัวคุณมากขึ้น
- ให้ความช่วยเหลือกับเด็ก คนอ่อนแอ หรือสัตว์เลี้ยงที่ถูกกระทำรุนแรง
- กรณีที่คุณได้รับบริการพิเศษ หรือเกิดเรื่องประทับใจใด ๆ ขึ้นกับหน่วยงานที่คุณเข้าไปติดต่อ เช่น ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อย่างดี ไม่ตะคอกใส่ ไม่เพิกเฉยต่อคำร้องเรียนของคุณ ลองเขียนจดหมายบอกเล่าถึงความดีของเจ้าหน้าที่คนนั้นส่งไปให้องค์กรของเขาได้รับทราบ
- เมื่อมีคนพยายามจะเปิดวงนินทา แล้วคุณบังเอิญอยู่ในวงนั้นพอดี ขอให้ลองชวนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หรือไม่ก็หางานอย่างอื่นทำ
- หากคุณมีหนังสือดี ๆ และต้องการมอบมันให้กับใครสักคนที่ต้องการกำลังใจ ลองวางในที่ที่คาดว่า จะมีคนมาพบ และหยิบมันขึ้นดูแน่ ๆ เช่น บนเก้าอี้รถเมล ในสวนสาธารณะ จะดียิ่งขึ้น หากคุณเขียนโน้ตบอกผู้ที่มาหยิบหนังสือนี้ว่า ขอให้ผู้ที่หยิบขึ้นมาอ่านรู้สึกดี ๆ กับหนังสือเล่มนี้เหมือนที่คุณรู้สึก และแบ่งปันให้กับคนอื่น ๆ ต่อไป
- หากทราบว่า เพื่อนบ้าน คนรู้จักป่วย ลองให้ความช่วยเหลือแก่เขาเหล่านั้น เช่น ส่งอาหารอร่อย ๆ ไปให้ ไปเยี่ยมเป็นเพื่อนพูดคุยคลายเหงา จะช่วยให้คนป่วยรู้สึกดีขึ้น
- ทำขนมอร่อย ๆ และแบ่งให้เพื่อนบ้านลองชิม
- หากคุณพบว่า ในละแวกบ้านมีบางครอบครัวประสบปัญหาทางการเงิน ลองให้ความช่วยเหลือโดยการซื้อของใช้จำเป็นไปมอบให้
- ยามเย็น ลองเปิดบ้าน หยิบนิทานมาเล่าให้เด็ก ๆ ฟัง
- ลองชวนลูกเขียนจดหมาย -ส่งข้อความดี ๆ หาเพื่อน หาคุณตาคุณยาย คนรู้จัก
- ให้ความช่วยเหลือกับเด็ก คนชรา ที่กำลังรอข้ามถนน หรือต้องขึ้นลงรถโดยสารประจำทาง
- หากคุณซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตจำนวนมาก ๆ แล้วพบว่า คนที่ต่อคิวข้างหลังคุณมีของไม่มากนัก อาจให้เขาจ่ายเงินก่อนคุณเพื่อที่เขาจะได้เสร็จธุระเร็วขึ้น
สิ่งต่าง ๆ ที่เขียนมาข้างต้นนี้ คงต้องบอกว่าเป็นการทำเพื่อคนอื่น โดยที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนจากการกระทำนั้น ๆ นอกจากความสุขในใจของผู้ทำ ซึ่งเราเชื่อว่า เรื่องของน้ำใจ การช่วยเหลือคนอื่นเป็นสิ่งที่พ่อแม่สอนอย่างเดียวไม่ได้ เด็กคงไม่ทำตามหากพ่อแม่ไม่ทำให้ดูก่อน
ดังนั้นหากอยากให้ลูก ๆ เป็นเด็กที่เอาใจเขามาใส่ใจเรา มีน้ำใจกับคนอื่น ๆ เป็นคนดีของสังคม คงต้องเริ่มต้นจากตัวพ่อแม่กันก่อนค่ะ นอกจากนี้ สำหรับท่านผู้อ่านท่านอื่นที่ไม่มีลูกเป็นของตนเอง แต่อยากทำให้สังคมในอนาคตดีขึ้นก็สามารถทำเรื่องดี ๆ ให้เด็ก ๆ ที่เป็นอนาคตของชาติเห็นเป็นตัวอย่างได้เช่นกัน
ข้อมูลจาก
เว็บไซต์ทีนรามา