ในบางรายที่ลดน้ำหนักอาจเคยเจอปัญหาน้ำหนักไม่ลดน้อยลงเลย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือการควบคุมอาหาร นับเป็นอุปสรรคในการลดน้ำหนักที่สำคัญ ที่เป็นเช่นนั้นอาจเกิดจาก “ระบบเผาผลาญเสื่อม” ที่หลายคนไม่เคยรู้ เป็นปัญหาที่เกิดจากภายในร่างกาย และเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้การลดน้ำหนักล้มเหลว โดยระบบเผาผลาญเสื่อมก็มีสาเหตุหลายอย่างด้วยกัน ทั้งแบบที่สามารถรักษาได้และรักษาไม่ได้
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเผาผลาญของร่างกาย
โดยปกติร่างกายคนเรามีการเผาผลาญตลอดเวลา แม้ในระหว่างนอนนิ่ง ๆ อยู่กับที่ ร่างกายก็ยังมีการเผาผลาญไปด้วย เรียกว่า “อัตราการเผาผลาญพื้นฐาน” โดยแต่ละบุคคลจะมีอัตราการเผาผลาญพื้นฐานแตกต่างกันออกไป และเมื่อร่างกายมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือมีการใช้แรง เช่น เดิน พูดคุย ร่างกายก็จะมีอัตราการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ขณะที่ร่างกายทำการย่อยอาหารและดูดซึมก็มีการเผาผลาญเกิดขึ้นเช่นกัน
อัตราการเผาผลาญของร่างกาย สามารถวัดได้หรือไม่?
อัตราการเผาผลาญของร่างกาย สามารถวัดได้ แต่จะทำในผู้ที่มีแนวโน้มว่าอาจมีปัญหาในเรื่องของระบบเผาผลาญที่ผิดปกติเท่านั้น หรือใช้ในคนไข้ที่มีโรคบางโรคที่ทำให้คำนวณอัตราการเผาผลาญได้ไม่แม่นยำ หรือใช้ในงานวิจัย ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาจากแพทย์เฉพาะทาง เช่น คนที่พยายามลดน้ำหนักแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ หรือในผู้ป่วยวิกฤติ มีอาการบาดเจ็บสาหัส เช่น แผลไฟไหม้ แผลน้ำร้อนลวกขั้นรุนแรง เป็นต้น โดยก่อนการวัด คนไข้จะต้องเตรียมตัวมาก่อนเหมือนกับการเตรียมตัวก่อนเจาะเลือด อาทิ การงดน้ำ งดอาหาร เป็นต้น
วิธีการวัดคือให้คนไข้นอนนิ่ง ๆ เป็นเวลา 30 นาทีเพื่อวัดอัตราการใช้ออกซิเจนของคนไข้ และอัตราการสร้างคาร์บอนไดออกไซด์ว่าสามารถสร้างได้เท่าไร ซึ่งจะบอกได้ว่าร่างกายมีอัตราการเผาผลาญพื้นฐานที่เท่าไร หรือเผาผลาญพลังงานได้กี่แคลอรี่
วิธีสังเกตภาวะระบบเผาผลาญเสื่อม
- รับประทานอาหารน้อยหรือเท่ากับคนอื่น แต่น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากกว่าคนอื่น (อ้วนง่ายผิดปกติ)
- พยายามลดน้ำหนัก แต่น้ำหนักไม่ยอมลดน้อยลง
สาเหตุของระบบเผาผลาญเสื่อม
- ป่วยด้วยโรคบางอย่าง เช่น ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- อายุที่เพิ่มขึ้น อัตราการเผาผลาญพื้นฐานมักต่ำลง
- คนที่ตัวเล็กกว่ามักมีอัตราการเผาผลาญต่ำกว่าคนที่ตัวใหญ่กว่า
- คนที่มีน้ำหนักขึ้น ๆ ลง ๆ ซ้ำซาก จากการลดน้ำหนักผิดวิธี ส่งผลให้อัตราการเผาผลาญพื้นฐานต่ำลงได้
อาหารที่สัมพันธ์กับระบบเผาผลาญของร่างกาย
- อาหารที่กระตุ้นการเผาผลาญ คืออาหารหมู่โปรตีน
- อาหารประเภทไขมัน ไม่ค่อยกระตุ้นการเผาผลาญมากนัก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการกระตุ้นระบบเผาผลาญของอาหารนั้นมีผลเพียงร้อยละ 10 ซึ่งน้อยมาก หลัก ๆ เลย สิ่งที่มีผลต่อระบบเผาผลาญของร่างกายอย่างมากก็คือการเผาผลาญพื้นฐานในบุคคลนั้นและกิจกรรมทางกาย
ผลกระทบจากภาวะระบบเผาผลาญเสื่อม
- โรคอ้วน
- โรคอื่นที่เกิดจากความอ้วน อาทิ โรคทางน้ำตาล โรคทางไขมัน โรคความดัน โรคหัวใจ เข่าเสื่อม เป็นต้น
การรักษาภาวะระบบเผาผลาญเสื่อม
รักษาที่สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว เช่น หากพบว่ามีสาเหตุมาจากตัวโรค ก็ทำการรักษาโรคนั้น หรือถ้าหากเกิดจากการลดน้ำหนักที่ผิดวิธี ก็ต้องรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการลดน้ำหนักให้ถูกต้อง
การลดน้ำหนักที่มีผลต่อระบบเผาผลาญ
การลดน้ำหนักที่ไม่ถูกต้องเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระบบเผาผลาญเสื่อม ได้แก่
- การอดอาหาร
- การรับประทานเฉพาะผัก ผลไม้ หลีกเลี่ยงการรับประทานแป้งและเนื้อสัตว์
- การปล่อยให้น้ำหนักขึ้น ๆ ลง ๆ ซ้ำซาก
การรับประทานเฉพาะผักและผลไม้ จะทำให้น้ำหนักลดลงจริง แต่สิ่งที่ลดลงมักจะเป็นมวลกล้ามเนื้อซึ่งจะทำให้อัตราการเผาผลาญพื้นฐานลดลง จะส่งผลให้ระบบเผาผลาญเสื่อมลง ทำให้กลับมาอ้วนอีกและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมักจะมากกว่าน้ำหนักตั้งต้น
วิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้อง
การลดน้ำหนักที่ถูกต้อง จะต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และเลือกรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม มีปริมาณโปรตีนเพียงพอ พร้อมกับสารอาหารที่ครบถ้วน สามารถรับประทานไปได้ตลอดในระยะยาว เพื่อให้ระบบเผาผลาญมีการปรับตัวที่สมดุล ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น ร่วมกับการออกกำลังกาย
ข้อมูลจาก
อ. พญ.ประพิมพ์พร ฉัตรานุกูลชัย
ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล