03
หน้าแรก
"ยาลดน้ำหนัก" อันตรายอย่างไรและเหมาะกับใคร?

"ยาลดน้ำหนัก" อันตรายอย่างไรและเหมาะกับใคร?

 

อ.พญ.ประพิมพ์พร ฉัตรานุกูลชัย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ยาลดน้ำหนัก” นั้นมีอยู่จริงและถูกใช้ในทางการแพทย์ แต่ต้องควบคุมการใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะถือเป็นยาที่ “มีผลข้างเคียงอันตราย” รวมถึงต้องเลือกคนไข้ที่จะใช้ยาเหล่านี้ให้ถูกต้องด้วย

ยาชุดหรืออาหารเสริมที่ขายตามสื่ออินเตอร์เน็ตต่างๆ หรือคลินิกที่ไม่ได้รับการรับรอง อาจจะมีการใช้ยาที่เป็นอันตราย มีส่วนผสมของยาหลายๆ ตัว ซึ่งมีผลเสียต่อร่างกายของเราอย่างแน่นอน อาจทำให้ยาที่ใช้เกิดการตีกันในร่างกาย เหตุผลที่ผู้ขายมีการใช้ยาผสมหลายๆ ตัว ก็เพราะต้องการให้ยามีประสิทธิภาพเห็นผลรวดเร็ว น้ำหนักลดได้รวดเร็ว แต่ผู้ผลิตหรือผู้ขายเองไม่ได้คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา

สารที่เรามักพบในยาลดน้ำหนักและมีอันตรายได้แก่

  1. “ไซบูทรามีน” จัดเป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น มีฤทธิ์ในการลดความอยากอาหาร ซึ่งถูกเพิกถอนออกไปแล้ว เนื่องจากมีการวิจัยชัดเจนว่า เมื่อใช้ยาตัวนี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคเส้นเลือดสมองเพิ่มมากขึ้น
  2. “ยาในกลุ่มแอมเฟตามีน” เช่น เฟนเทอร์มีน ออกฤทธิ์กระตุ้นศูนย์ควบคุมความอิ่มทำให้เกิดการเบื่ออาหาร อาจจะส่งผลข้างเคียงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้
  3. “ยาระบาย บิสซาโคดิลและยาขับปัสสาวะ ฟูโรซีไมด์” เป็นยารักษาโรคซึมเศร้าและอาการในกลุ่มวิตกกังวลช่วยทำให้ไม่อยากอาหาร ผลข้างเคียงคือร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่

โดยทั่วไปแล้วยาลดน้ำหนักมีไว้ใช้สำหรับคนที่เป็น “โรคอ้วน”

ซึ่งการใช้ยามักจะใช้ในผู้ป่วยที่มีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30 ขึ้นไป หรือเกิน 27 แต่มีโรคความดัน โรคเบาหวาน หรือหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย เป็นต้น รวมถึงต้องวินิจฉัยว่าคนไข้มีการควบคุมอาหาร ออกกำลังกายแล้วแต่ “ไม่ได้ผล” จึงจะสามารถใช้ยาเหล่านี้ได้ ไม่ใช่ว่าอยากจะลดแล้วสามารถใช้ยาได้เลย ต้องควบคุมการใช้โดยแพทย์ทุกครั้ง

 

ข้อมูลจาก
อ. พญ.ประพิมพ์พร ฉัตรานุกูลชัย
ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

แพ้ยา อันตรายกว่าที่คิด รู้ก่อน ป้องกันได้
อาการแพ้ยาอาจเริ่มจากผื่นคันไปจนถึงช็อกและเสียชีวิต หากรู้ทันอาการเบื้องต้นและแจ้งแพทย์ทุกครั้งก่อนใช้ยา จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก
บทความสุขภาพ
01-07-2025

0

ปวดข้อเท้าสะสม เสี่ยง! ข้อเท้าเสื่อมก่อนวัย
อาการปวดข้อเท้าเรื้อรังอาจเป็นสัญญาณของข้อเท้าเสื่อมก่อนวัย หากไม่ดูแลอาจกระทบการเดินและการใช้ชีวิต รู้วิธีป้องกันและรักษาอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
30-06-2025

7

หยุด! อาการปวดส้นเท้า
อาการปวดส้นเท้าอาจเกิดจากรองช้ำหรือการใช้งานเท้าหนักเกินไป หากไม่ดูแลอาจเรื้อรัง รู้วิธีป้องกันและบรรเทาอาการอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
26-06-2025

9

มะเร็งลำไส้ โรคร้ายที่ไม่เลือกวัย
มะเร็งลำไส้ใหญ่พบได้ทุกวัย ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุ อาการแอบแฝง ตรวจพบเร็วช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิต รู้ทันสัญญาณเตือนและแนวทางป้องกัน
บทความสุขภาพ
25-06-2025

6

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL