กลิ่นตัว เรื่องเล็กๆที่บั่นทอนความมั่นใจของเราได้
หน้าแรก
"กลิ่นตัว" เรื่องเล็กๆ ที่บั่นทอนความมั่นใจของเราได้

"กลิ่นตัว" เรื่องเล็กๆ ที่บั่นทอนความมั่นใจของเราได้

นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช โฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่าขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มที่ ทำให้ทั่วภูมิภาคของประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าว แสงแดดจ้าและมลภาวะต่างๆ เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคผิวหนังได้ง่าย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องกลิ่นตัว ซึ่งแม้จะไม่เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต แต่สามารถบั่นทอนความมั่นใจและบุคลิกภาพในการเข้าสังคมของคนจำนวนมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน

“กลิ่นตัวเหม็น” เกิดจาก

กลิ่นของสารเคมี ชื่อ Trimethylamine(ไตรเมทิลามีน) ซึ่งขจัดออกมาจากเหงื่อ ปัสสาวะและสารคัดหลั่งของร่างกาย ในหน้าร้อนคนเราจะมีเหงื่อออกตามร่างกายจำนวนมาก ทำให้แบคทีเรียเพิ่มจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้บริเวณที่เหงื่อไม่สามารถระเหยได้สะดวก เช่น ซอกรักแร้ ซึ่งมีต่อมเหงื่อ Apocrine(อะโปครายน์) ที่เป็นสาเหตุของกลิ่นตัวโดยตรง

โดยปกติต่อมชนิดนี้จะผลิตเหงื่อที่มีลักษณะขุ่นๆ คล้ายน้ำนม ประกอบด้วยสารพวกโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมัน โดยแบคทีเรียจะเป็นตัวย่อยสลายเหงื่ออะโปครายน์ จึงทำให้เกิดกลิ่นตัวขึ้น

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นตัวเหม็น คือ

พยายามอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือมากกว่านั้น หากรู้สึกว่าร่างกายมีเหงื่อไคล ร้อนอบอ้าว ฟอกสบู่ให้สะอาด โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ รอบหัวนม อวัยวะสืบพันธุ์ ลดกิจกรรมกระตุ้นให้เหงื่อออกมาก เลี่ยงอาหารและผลไม้บางชนิดที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม สะตอ ทุเรียน พริกป่น เนย ตับ ถั่ว ซึ่งเป็นแหล่งของสาร Trimethylamine(ไตรเมทิลามีน) โดยจะถูกขับออกมาพร้อมกับเหงื่อ

อะโปครายน์ส่งผลให้กลิ่นตัวฉุนมากขึ้น แต่บางรายมีเหงื่อออกไม่มาก แม้จะอาบน้ำทำความสะอาดแล้ว กลิ่นตัวก็ยังฉุนอยู่ อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น

ความเครียด ความกลัว ความโกรธ จึงจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นตัว (deodorant) ร่วมด้วย จะสามารถลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียได้ นอกจากนี้การโกนขนรักแร้ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะว่าขนเหล่านี้จะเก็บกักความชื้น เหงื่อไคล สิ่งสกปรกต่างๆ ทำให้จำนวนแบคทีเรียบริเวณดังกล่าวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีกลิ่นตัวรุนแรงได้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าบางเบา หลวมๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีวิตามิน C, E เช่น แครอท ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ

โฆษกกรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเผชิญกับแสงแดดเป็นระยะเวลานาน อาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังอื่นๆ โดยมีแสงแดดและความร้อนเป็นตัวกระตุ้น เช่น ผดผื่นคัน ลมพิษ และโรคมะเร็งผิวหนัง จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัดและไม่ตากแดดเป็นเวลานาน

หากมีความจำเป็นต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานานควรสวมหมวก กางร่ม ใส่แว่นตากันแดด ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เน้นเสื้อผ้าสีอ่อนเพื่อไม่ให้ดูดความร้อนและการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป และค่า PA+++ ที่สำคัญหากเกิดความผิดปกติของผิวหนัง ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโดยตรง อย่าปล่อยไว้จนลุกลาม

 

ข้อมูลจาก
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช
โฆษกกรมการแพทย์

RAMA Channel

บทความที่เกี่ยวข้อง

ป้องกันอย่างไร ไม่ให้เกิดอาการปวดหน้าเท้า
อาการปวดหน้าเท้าอาจเกิดจากรองเท้าไม่พอดี น้ำหนักตัว หรือการใช้งานเท้าเกินพอดี รู้วิธีป้องกันและบรรเทาอาการอย่างถูกต้อง
บทความสุขภาพ
19-06-2025

2

กระเพาะทะลุ อาการโหดที่ไม่ควรมองข้าม รู้เร็ว รักษาได้ ไม่ต้องทนเจ็บ!
กระเพาะทะลุเป็นภาวะฉุกเฉินที่อันตราย เจ็บท้องเฉียบพลัน แน่นท้อง คลื่นไส้ ต้องรีบรักษาโดยเร็ว รู้ทันอาการเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง
บทความสุขภาพ
13-06-2025

4

มะเร็งไทรอยด์มักไม่มีอาการในระยะแรก
มะเร็งไทรอยด์มักไม่มีอาการในระยะแรก แต่หากตรวจพบเร็วสามารถรักษาได้ทันและมีโอกาสหายสูง รู้เท่าทันเพื่อดูแลตัวเองและคนที่คุณรัก
บทความสุขภาพ
03-06-2025

11

รู้ทัน ถุงน้ำในตับอ่อน เสี่ยงทุกวัย ไม่เลือกเพศ
ถุงน้ำในตับอ่อนเป็นโรคเงียบที่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย อาจไม่มีอาการแต่เสี่ยงกลายเป็นมะเร็ง รู้ทันเพื่อวางแผนตรวจและรักษาอย่างทันท่วงที
บทความสุขภาพ
29-05-2025

15

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ
0 2201 1000
0 2200 3000

งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

270 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0 2201 0182
โทรสาร 0 2201 2127
อีเมล ramachannel24@gmail.com

© 2024, RAMA CHANNEL