0
567
0
1
0
friends with benefits
19-09-2024
19-09-2024
- พญ.กชกร คันธฬิกา
มณีนุช มานชู
Retreat ฉบับที่ 1 เดือนกรกฎาคม 2566
 
Learners' voice
พญ.กชกร คันธฬิกา แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3 ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว 
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 
 

“มีใครที่กำลังถามคำถามนี้กับตัวเองหรือแม้แต่ถามกับคนที่เรากำลังมีความสัมพันธ์อยู่ด้วยบ้าง”

เรากำลังคบกันแบบไหน? มีใครที่กำลังถามคำถามนี้ กับตัวเองหรือแม้แต่ถามกับคนที่เรากำลังมีความสัมพันธ์อยู่ด้วยบ้าง เป็นเรื่องปกติที่เมื่อคนสองคนเริ่มมีความสัมพันธ์ต่อกัน หรือ ในบางความสัมพันธ์ก็มีมากกว่าสองคน จะเริ่มตั้งคำถามถึงสถานะความสัมพันธ์ของเราที่กำลังเป็นอยู่
 
แต่ในความจริงแล้วนั้นความสัมพันธ์ของคนเราในหลาย ๆ สถานการณ์ก็ไม่ต้องการรูปแบบที่ตายตัวและไม่ต้องการที่จะจริงจังกับความสัมพันธ์ และในหลาย ๆ ครั้งก็เป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์ทางเพศที่ไม่มีความโรแมนติกเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งรูปแบบความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการเองนั้น ก็สามารถมีได้หลากหลายรูปแบบ เช่น
 
The classic fling/ No strings attached 
การมีความสัมพันธ์กันแค่ทางกายเท่านั้นโดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อผูกมัดใด ๆ
 
One night stand 
การมีความสัมพันธ์ทางกายเพียงแค่ชั่วข้ามคืน ส่วนมากผู้ที่มีความสัมพันธ์รูปแบบนี้จะไม่สานต่อความสัมพันธ์กันต่อเนื่อง
 
FRIENDS WITH BENEFITS
ปัจจุบันเหมือนว่าความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการ (Casual relationship) เป็นที่นิยมมากขึ้น แตกต่างจากในอดีตที่คนทั่วไปมักมองว่าการมีความสัมพันธ์ต้องเริ่มจากความรัก ความโรแมนติก จากนั้นค่อย ๆ พัฒนาจนกระทั่งแต่งงานกันในที่สุด 
 
The “Hang Out” relationship 
ความสัมพันธ์ที่ออกไปไหนมาไหนด้วยกันมีความสัมพันธ์ทางกายด้วยกัน แต่ไม่ยึดถือหรือมีเงื่อนไขความสัมพันธ์ในระยะยาว
 
Long term casual relationship 
คือการคงอยู่ในความสัมพันธ์แบบไม่เป็น ทางการต่อไปในระยะยาว
 
Open relationship : 
 
a multiple partner clarity 
คือการมีความสัมพันธ์แบบเปิดโอกาสให้คู่ สามารถไปมีความสัมพันธ์ทางกายกับคนอื่นได้ โดยถือเป็นข้อตกลงร่วมกัน และไม่มีผลกระทบกับความสัมพันธ์
 
Swinging 
คือการมีความสัมพันธ์ที่สามารถมีความสัมพันธ์ทางกายสลับกับคู่อื่นๆ หรือคนอื่นๆ ได้ และส่วนมากก็อาจมีความสัมพันธ์ทางกายกันแบบหมู่ได้ 
 
The “let’s keep it as it is” dynamic และ The untagged relationship
คือความสัมพันธ์ที่มีรูปแบบคล้ายๆ กัน นั่นคือ การที่ไม่ต้องการคำนิยามหรือชื่อเรียกของความสัมพันธ์ เพียงแค่มีความสัมพันธ์ทางกายกันต่อไปเรื่อย ๆ
 
Situationship: a classic escape 
คือความสัมพันธ์ชั่วคราว ทั้งทางกายและทางจิตใจ จุดประสงค์ของความสัมพันธ์นี้เพื่อหลบหนีจากเหตุการณ์อื่น ๆ ในชีวิต เช่น ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีมาก่อนหน้า เป็นต้น  และอีกหนึ่งในความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการที่โด่งดังและได้รับความนิยมเป็นอย่างมานั้นได้แก่ ความสัมพันธ์แบบเพื่อนนอน หรือ Friends with benefits หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า F.W.B. นั่นเอง หากใครที่กำลังสงสัย ไม่มั่นใจ หรือกำลังคิดว่าเรากำลังอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้อยู่หรือไม่นั้น วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกันค่ะ
 
ความสัมพันธ์แบบเพื่อนนอน หรือ Friends with benefits เป็นหนึ่งในรูปแบบความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการรูปแบบหนึ่ง ที่มีหัวใจหลักคือการมีความสัมพันธ์กันทางกาย และมักเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มเพื่อนหรือคนที่รู้จักกันอยู่แล้วนั่นเอง ซึ่งกฏเหล็กของความสัมพันธ์รูปแบบนี้คือ จะต้องไม่มีการผูกพันกันทางจิตใจและต้องไม่มีความรัก ความโรแมนติกต่อกัน อาศัยความผูกพันใกล้ชิดกันทางกายเท่านั้น
 
ฟังดูแล้วเป็นเหมือนความสัมพันธ์ที่ย้อนแย้ง เพราะเริ่มต้นมาจากเพื่อน แต่ต้องผูกพันกันเพียงทางกาย จะโรแมนติกก็ไม่ใช่ จะแค่มีความสัมพันธ์ทางเพศกันเฉย ๆ ก็ไม่เชิง เพราะยังไงก็คือเพื่อน ดังนั้นจึงมีคนนิยามความสัมพันธ์รูปแบบนี้ไว้ว่า “Hybrid relationship” และมักมีคำถามตามมาว่าการที่ต้องอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้นั้นมีผลดีต่อสุขภาพจิตจริงหรือไม่ 
 
วารสาร Social and Behavioral Sciences ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เคยตีพิมพ์การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้เมื่อปี 2014 ในหัวข้อ “Friends with benefits and psychological wellbeing” มีจุดประสงค์ของการศึกษาคือ เพื่อเข้าใจการตอบสนองทางอารมณ์ของคนที่กำลังอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้ และเพื่อหาความแตกต่างของการตอบสนองในความสัมพันธ์ระหว่างเพศชายและเพศหญิง รูปแบบของการศึกษาคือ การสำรวจเชิงอธิบาย โดยมีผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 119 คน เพศหญิง 88 คน เพศชาย 31 คน ร้อยละ 90 ของผู้เข้าร่วมการศึกษานิยามตนเองเป็น Heterosexual และมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 24 ปี ใช้วิธีการสำรวจรูปแบบออนไลน์ เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสอบถามที่ได้รับการประเมินคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญด้านเพศ (Sexologists) โดยแบบสอบถามแบ่งการตอบสนองทางอารมณ์ของผู้อยู่ในความสัมพันธ์แบบ F.W.B. ออกเป็น
 
การตอบสนองทางบวก ได้แก่ 
  • ความสุข (Happy)
  • การเป็นที่ต้องการ (Desired)
  • ความพึงพอใจ (Satisfied)
  • ความรู้สึกผจญภัย (Adventure)
  • ความตื่นเต้น (Excited) 
การตอบสนองทางลบ ได้แก่ 
  • ความอ้างว้าง (Empty)
  • ความรู้สึกสับสน (Confused)
  • การถูกใช้ (Used)
  • ความรู้สึกเงอะงะ (Clumsy)
  • ความรู้สึกถูกหลอกลวง (Deceived)
ผลของการศึกษาพบว่า ทั้งในเพศหญิงและชายให้ความรู้สึกของการมีความสัมพันธ์แบบ F.W.B. ไปในทิศทางบวกมากกว่าลบ ซึ่งความรู้สึกส่วนใหญ่คือ ความสุข ตามมาด้วยการเป็นที่ต้องการ ความพึงพอใจ และความตื่นเต้น ในทางกลับกันก็มีบางส่วนที่มีความรู้สึกสับสนในความสัมพันธ์
 
แต่โดยสรุปแล้วผู้เข้าร่วมการศึกษาส่วนใหญ่มีประสบการณ์ทางอารมณ์ในความสัมพันธ์แบบ F.W.B. ที่ดีและมีสุขภาพจิตที่ดี โดยเฉพาะเพศหญิงที่มีการตอบสนองทางอารมณ์เป็นไปในทิศทางบวกมากกว่าเพศชาย ยกเว้นเพียงความรู้สึกสับสนที่พบในเพศหญิงมากกว่า และเมื่อดูจากผลการศึกษาในเรื่องของประโยชน์ (Benefits) ของรูปแบบ ความสัมพันธ์ F.W.B. แบ่งตามเพศ พบว่า ในเพศชายมองว่าความสัมพันธ์รูปแบบนี้สามารถหลีกเลี่ยงพันธะผูกพันในระยะยาว ทำให้รู้สึกปลอดภัยและมีความมั่นใจกว่ารูปแบบความสัมพันธ์แบบอื่น ๆ ส่วนในเพศหญิงความสัมพันธ์รูปแบบนี้ทำให้รู้สึกอุ่นใจในการมีความสัมพันธ์ทางกายกับเพื่อนหรือคนที่รู้จัก แต่มักมีความรู้สึกว่างเปล่าเพิ่มขึ้นมากกว่าในเพศชาย 
 
ดังนั้นจากการศึกษาดังกล่าวจึงสรุปได้ว่า 
ผู้ที่กำลังมีความสัมพันธ์แบบ F.W.B. ส่วนใหญ่นั้นตอบผลการสำรวจออกมาในเชิงบวกและสรุปสภาวะจิตใจของตนเองกับการมีความสัมพันธ์รูปแบบนี้ที่ดี และที่น่าแปลกใจคือ เพศหญิง  ผู้เข้าร่วมการศึกษาในครั้งนี้ ดูจะชื่นชอบความสัมพันธ์รูปแบบนี้มากกว่าเพศชายอีกด้วย 
 
บทสรุปของการศึกษานี้นำไปสู่การทำความเข้าใจต่อบทบาทหน้าที่ทางเพศและรูปแบบความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากวัฒนธรรมหรือความเชื่อแบบเดิม ๆ ที่เราเคยเข้าใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดแล้วมนุษย์ทุกคนล้วนมีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึก และมีความสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญที่สุดในทุก ๆ ความสัมพันธ์คือ การคุยกัน หาขอบเขต หาทิศทาง และทำข้อตกลงกันก่อนจึงจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย และสุดท้ายไม่ว่าเราจะนิยามความสัมพันธ์ของตนเองกับคู่ของเราในรูปแบบไหน เราก็มีชีวิตที่มีความสุขได้ 
 

แล้วคุณล่ะ อยากมีความสัมพันธ์แบบ F.W.B. รึเปล่า ?

 
สามารถอ่านวารสารฉบับเต็มได้ที่ https://online.fliphtml5.com/pgtfo/bmyg/
 
 
Reference 
- Herenia G, Encarnación S, Gilberto A. Friends with benefits and psychological wellbeing. Procedia - Social and Behavioral Sciences,Vol. 132, 2014.
- Leif E, Ottesen K, Joy P. Wyckoff, Kelly Asao, David M. Buss, Mons B. Why do women regret casual sex more than men do?, Personality and Individual Differences,Vol 127, 2018.
 
 
ชื่อผู้เผยแพร่
มณีนุช มานชู
ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว - 19-09-2024
แท็คยอดนิยม
แสดงความคิดเห็น